โปรโมทสินค้าหรือบริการอย่างไรดี

นอกจากที่เราจะต้องกำหนดลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการที่จะจำหน่ายสินค้าหรือบริการของเราแล้ว อันดับถัดมาที่เราต้องทำคือการโปรโมทสินค้าหรือบริการของเราให้เป็นที่รู้จัก เพราะไม่ว่าสินค้าหรือบริการเราจะดีขนาดไหน แต่ถ้าไม่มีคนรู้จัก ก็ไม่มีใครมาซื้อ รายได้ก็ไม่เข้ามา

แนวทางการโปรโมทสินค้าหรือบริการมีหลายแนวทางครับ แต่แนวทางที่ผมคิดว่าเหมาะสมกับคนที่เป็นผู้ประกอบการวันหยุดที่ไม่มีเวลามาก และไม่มีเงินลงทุนเยอะ น่าจะมีดังต่อไปนี้

1. บอกต่อไปยังคนใกล้ชิด

อันนี้เป็นจุดเริ่มต้นเลยครับ ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตาม เราอาจจะเริ่มบอกคนใกล้ชิดเราก่อน เช่น พ่อแม่ พี่น้อง เพื่อนสนิท กลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มแรกที่พร้อมที่จะสนับสนุนเรา เขาอาจจะเป็นลูกค้ากลุ่มแรก ๆ ของเราเลยก็ได้ หรือถ้าเป็นสินค้าหรือบริการที่เขาไม่ได้ใช้ เขาก็พร้อมที่จะบอกต่อไปยังคนอื่น ๆ และวิธีทางนี้โดยปกติแทบจะไม่มีต้นทุนใด ๆ เลยด้วยซ้ำ เพราะถ้าเป็นคนใกล้ชิดเราจริง ๆ เขาพร้อมที่จะช่วยเราโดยไม่ได้มาหวังผลตอบแทนใด ๆ อยู่แล้ว

2. บอกต่อผ่านช่องทาง Social Media ของเรา

อันนี้ก็แทบจะไม่มีต้นทุนใด ๆ อย่างน้อยในช่วงเริ่มต้น เช่น การลงข้อความประชาสัมพันธ์ ผ่าน Facebook หรือ Instagram ส่วนตัว การส่งเข้าในกลุ่ม Line ที่ไม่เป็นการรบกวนคนอื่น หรือทุกช่องทางที่เรามี ในช่วงแรกอาจจะทำแบบนี้ไปก่อนก็ได้ แต่ในระยะยาว ผมแนะนำให้เราเป็น Page หรือช่องทาง Social Media ของธุรกิจเรา แยกออกมาจากบัญชีส่วนตัว เพื่อความชัดเจนว่า อันนี้คือธุรกิจที่เราทำนะ อีกอันเป็นเรื่องส่วนตัวของเรา

3. จ่ายค่าโฆษณา

ถ้าเราเริ่มทำข้อที่ 1 และ 2 แล้ว ผมว่าคนจะเริ่มรู้จักผลิตภัณฑ์ของเราเพิ่มมากขึ้นแล้ว คราวนี้อยากให้คนรู้จักมากขึ้นไปอีก เราอาจจะต้องเริ่มใช้เงินลงทุนบ้าง โดยการจ่ายค่าโฆษณา ถ้าให้ผมแนะนำ ผมคิดว่าผู้ประกอบการวันหยุดน่าจะเริ่มโฆษณาผ่านช่องทาง Digital ก่อน เพราะมันสามารถเลือกกลุ่มลูกค้าได้ง่าย และเรากำหนดงบประมาณได้ด้วยเช่นกัน เช่นการเป็น Facebook Page และจ่ายค่าโฆษณาเพื่อให้คนติดตาม Page เรามาขึ้น หรือการจ่ายเงินเพื่อให้คนเห็น Post ของเรามากขึ้น (Boost Post) ซึ่งรายละเอียดตรงส่วนนี้ เราสามารถหาหนังสืออ่านได้เยอะแยะเลยครับ แต่มันไม่ได้ยากมาก เราสามารถทำได้แน่นอน

ข้อควรระวังคือ ผมยังไม่อยากให้เริ่มจ่ายเงินตรงนี้เยอะ เพราะยิ่งจ่ายเยอะ เรายิ่งเสี่ยง ค่อย ๆ เริ่ม ลองผิดลองถูกกันก่อน พอเห็นช่องทาง มีความมั่นใจว่าเราโฆษณาได้ถูกกลุ่ม สินค้าหรือบริการเราตอบโจทย์ลูกค้าจริง ๆ ค่อยเพิ่มงบประมาณส่วนนี้ในภายหลัง แบบนี้จะดีกว่าครับ

ส่วนโฆษณาในช่องทางอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ Digital ก็เป็นไปได้ครับ เช่นการทำใบปลิวแจก หรืออื่น ๆ แต่ต้องระวังเรื่องงบประมาณอีกเช่นเดียวกัน และโดยปกติการทำผ่านช่องทางอื่น ๆ มักจะวัดผลได้ลำบากกว่าช่องทาง Digital ครับ

4. ทำให้เกิดการบอกต่อ

ต้องบอกว่าในบรรดา 4 ข้อที่แนะนำ ข้อนี้ทรงพลังมากที่สุด แต่ทำได้ไม่ง่ายนัก คือเราจะต้องทำสินค้าหรือให้บริการที่ดีที่สุด ดีจนกระทั่งลูกค้าที่ใช้สินค้าหรือบริการเราเกิดความประทับใจ จนบอกต่อไปยังคนที่รู้จัก การที่เราสามารถทำให้เกิดการบอกต่อได้นั้น จะส่งอย่างมาก เพราะคนที่ลูกค้าบอกต่อ เขามีแนวโน้มจะเชื่อมากกว่าการที่เราจะไปโฆณษาสินค้าหรือบริการของตัวเองอยู่แล้ว เพราะคนที่บอกต่อนั้นเขาไม่ได้มีส่วนได้เสียอะไรเลย เขาบอกเพราะเขาชอบจริง ๆ ต่างจากเราซึ่งเป็นเจ้าของ ถ้าเราบอกว่าสินค้าหรือบริการเราดี คนอื่นก็อาจจะมีข้อสงสัยว่า ก็เพราะว่าเราอยากขายของ เราถึงบอกว่าของเราดี อะไรทำนองนี้

นอกจากการทำสินค้าหรือบริการเราให้น่าประทับใจแล้ว เรายังสามารถขอสัมภาษณ์ลูกค้าเรา เพื่อนำข้อความไปโปรโมทก็ได้ หรืออาจจะลองกระตุ้นทำ Campaign ประเภทว่า ถ้าบอกต่อแล้ว คนที่บอกต่อรวมทั้งคนที่ได้รับการบอกต่อ หากมาซื้อสินค้าหรือใช้บริการเราก็จะได้รับส่วนลด อะไรทำนองนี้ก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่การทำแบบนี้ก็ต้องระวังเรื่องต้นทุนนะครับ ไม่เช่นนั้นมันก็อาจจะเกินงบประมาณที่เราตั้งไว้ได้

ลองใช้ 4 แนวทางนี้เป็นจุดเริ่มต้นทำให้คนรู้จักสินค้าหรือบริการของเรากันครับ สังเกตว่าทั้ง 4 แนวทางนี้ ไม่ได้มีการใช้เงินลงทุนมากนัก และไม่ได้ใช้เวลาเรามากมายเลย จึงน่าจะเหมาะกับคนที่เป็นผู้ประกอบการวันหยุดครับ

ติดตามผลงานอื่น ๆ ได้ทาง Page Nopadol’s Story หรือ Nopadol’s Story Podcast ใน Podbean Soundcloud Apple Podcast Spotify YouTube หรือ Blockdit

Recommended Posts

No comment yet, add your voice below!


Add a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *