ใครตื่นมาตอนเช้าแล้วรู้สึกกระฉับกระเฉงอยากจะทำโน่นนี่เต็มไปหมด อ่านจะข้ามข้อเขียนนี้ไปได้เลยครับ แต่ถ้าใครตื่นมาแบบ เบื่อจัง อยากนอนต่อ หรือระหว่างวันก็ทำอะไรไปแบบอัตโนมัติ เบื่อ ๆ แต่ต้องทำ ลองอ่านต่อกันครับ
การสร้างแรงจูงใจมันมีได้ 2 แบบหลัก ๆ ครับ แบบแรกคือการสร้างแรงจูงใจภายนอก กับ แบบที่สองคือการสร้างแรงจูงใจภายใน
เริ่มจากแรงจูงใจภายนอกก่อน อันนี้ตรงไปตรงมามาก ๆ คือคำว่าแรงจูงใจภายนอกคือเราอยากทำ เพราะเราอยากได้อะไรเป็นผลตอบแทนซึ่งส่วนใหญ่ก็คงหมายถึง เงิน รางวัล อะไรทำนองนั้น
จะว่าง่ายก็ง่าย คือไม่ต้องคิดอะไรมาก เช่นทำแล้วได้เงินเป็นผลตอบแทน เราก็อยากทำ ลองนึกถึงสิ่งที่เราเบื่อสุด ๆ ดูสิครับ แล้วเราเอาเงินใส่ไปเป็นรางวัล ผมว่าสิ่งนั้นจะน่าสนใจขึ้นทันที
เช่น ผมเบื่อรถติดมาก ๆ ยิ่งติดนานยิ่งเบื่อ แต่ถ้าสมมุติว่ามีคนมาให้เงินเราชั่วโมงละ 1 แสนบาทตอนรถติด ถามว่าคราวนี้อยากรถติดไหม บอกได้เลยว่าอยากแน่นอน ยิ่งติด ยิ่งมีความสุข วันนี้ขับรถไปรถติด 3 ชั่วโมง กลับถึงบ้านมีเงินโอนมา 3 แสนบาท ตื่นมารอคอยเลยว่า วันนี้รถจะติดอีกไหมนะ จริงไหมครับ
แต่สิ่งที่มันยาก คือมันไม่มีคนมาจ่ายเงินให้เราแบบนี้น่ะสิครับ ปัญหาที่เราเบื่อกันอยู่ก็คือเราทำอะไรหลายอย่างที่ไม่ได้รับผลตอบแทนทางการเงิน หรือถ้าได้ก็น้อยมาก ไม่เพียงพอ และก็ไม่รู้จะหาเงินหรือผลตอบแทนภายนอกนี้เพิ่มอย่างไร
ดังนั้นเราจึงต้องกลับมาดูแรงจูงใจแบบที่สอง คือแรงจูงใจภายในครับ อันนี้เราสร้างเองได้ ไม่ต้องไปพึ่งพาใคร
ข้อเสนอของผมคือ ในแต่ละวัน เราควรทำ 3 สิ่งนี้ ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ คือเข้าใจว่าแต่ละคนเวลาจำกัด แต่ลองแบ่งเวลามาทำกันนะครับ
1. ทำในสิ่งที่เราอยากทำ
อะไรก็ได้ครับ ที่เราอยากทำ ยิ่งไม่ต้องใช้เงินมากมายยิ่งควรทำ แบ่งเวลามา เช่น อยากกินอาหารอร่อย (ไม่จำเป็นต้องแพง) เอาเลยครับ กินเลย อยากดูซีรีส์สักตอน เอาเลยครับ (แต่อย่าเผลอไผลดูมันโต้รุ่งแล้วกัน) อยากอ่านหนังสืออ่านเลยครับ
การได้ทำในสิ่งที่เราอยากทำ จะทำให้เรามีแรงจูงใจในการดำเนินชีวิตในแต่ละวันมากขึ้น อย่างผม ผมตื่นมาบางทีมีงานรออยู่ แต่มันมีกำลังใจว่า เดี๋ยวรีบทำงานนี้ให้เสร็จ จะได้ไปอ่านหนังสือ เขียนหนังสือสักที แบบนี้เราจะมีพลังมากขึ้น
หรือบางทีไม่จำเป็นต้องทำงานก่อน แล้วถึงจะได้ทำสิ่งที่เราอยากทำ ถ้าอยากทำ ก็ทำเลยครับ (ถ้าไม่ได้ทำให้คนอื่นหรือตัวเองเดือดร้อนนะครับ) มันเหมือนเป็นการชาร์จพลังเข้าตัวเองในทุก ๆ วัน
2. พัฒนาตัวเองทุก ๆ วัน
เคยสังเกตไหมครับว่าเวลาเราได้ทำอะไรที่เราเก่ง เราจะเพลินกับสิ่งนั้น (เพราะมันไม่ต้องใช้พลังมาก) และพอเราเก่งเรื่องนั้น เราก็มักจะทำผลลัพธ์เรื่องนั้นได้ดี พอเราทำได้ดี พวกเงิน รางวัลก็วิ่งเข้ามาหาเรา แถมตัวเราเองก็จะภูมิใจมากขึ้นเรื่อย ๆ
แต่การจะทำแบบนั้นได้ เราต้องพัฒนาฝีมือเราครับ ดังนั้นในแต่ละวัน เราควรจะแบ่งเวลามาพัฒนาตัวเอง แต่อยากบอกว่า อย่าทำแบบสะเปะสะปะนะครับ เลือกสักเรื่อง แล้วลุยให้สุด ๆ ในเรื่องนั้นเลย
เราอาจจะเลือกสิ่งที่เราพอมีฝีมืออยู่แล้วก็ได้ แล้วพัฒนาฝีมือของเราตรงนั้นเพิ่มมากขึ้น แบบนี้เราจะมีแต้มต่อเยอะครับ เราจะกลายเป็นคนที่มีคนอื่นพูดถึงในเรื่องนั้นเยอะขึ้น และเราก็จะมีแรงจูงใจมากขึ้น
เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องงานก็ได้นะครับ โจทย์ของเราคือการสร้างแรงจูงใจให้ชีวิต สมมุติว่าเราชอบวิ่ง เราวิ่งได้ดี เอาเลยครับ เอาให้สุด วิ่งให้เต็มที่ ยิ่งฝึกวิ่งทุกวัน เราก็จะวิ่งได้ดี สถิติดีขึ้น อยากไปวิ่งมากขึ้น ตื่นเช้ามาก็รู้สึกสดใสแล้วว่า เดี๋ยววันนี้จะได้ไปวิ่งอีกแล้ว อะไรทำนองนี้
3. สร้างความสุขให้คนอื่น
วิธีที่จะสร้างแรงจูงใจให้ชีวิตเราอีกวิธีหนึ่งคือ การสร้างความสุขให้คนอื่นครับ ตื่นมาลองคิดเป้าหมายเลยว่า วันนี้จะทำให้ใครมีความสุขบ้าง (โดยที่ไม่ทำให้ตัวเองเดือดร้อน) ยิ่งเราสามารถสร้างความสุขให้คนอื่นได้มากเท่าไร เรายิ่งมีแรงจูงใจและมีความสุขในชีวิตมากเท่านั้น
การสร้างความสุขให้กับคนอื่นไม่ได้หมายถึงจะต้องบริจาคเงิน บริจาคของเท่านั้น เราอาจจะแบ่งปันความรู้ที่เรามีเพื่อช่วยให้คนอื่นมีชีวิตที่ดีขึ้นแบบนี้ก็ได้ เราอาจจะเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือคนที่ด้อยโอกาสก็ได้ หรือแม้แต่การทำ Random Act of Kindness แปลว่า เราช่วยคนแปลกหน้าให้เขามีความสุขก็ได้ ง่ายที่สุดก็ส่งยิ้ม ทักทายคนทั่วไป ช่วยเหลือคนเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ทำได้หมด (แต่ก็ต้องระวังพวกมิจฉาชีพด้วยนะครับ)
3 ข้อนี้ไม่จำเป็นต้องเลือกว่าจะทำอะไรดีนะครับ ทำได้พร้อม ๆ กันเลย ยิ่งทำมาก ยิ่งมีแรงจูงใจมาก และทั้ง 3 ข้อส่วนใหญ่แล้ว เราสามารถทำได้เองเลย แทบจะไม่ได้มีต้นทุนอะไรมากมายนัก
ขอให้ทุกท่านมีแรงจูงใจในการดำเนินชีวิตเพิ่มมากขึ้นทุกวันนะครับ
ติดตามผลงานอื่น ๆ ได้ทาง Page Nopadol’s Story หรือ Nopadol’s Story Podcast ใน Podbean Soundcloud Apple Podcast Spotify YouTube หรือ Blockdit
No comment yet, add your voice below!