15 เทคนิคการสร้างผู้ติดตามจากหนังสือ One Million Followers

หนังสือ One Million Followers เป็นหนังสือที่มีเนื้อหาตรงกับชื่อมาก ๆ ครับ คือวิธีการสร้างคนติดตาม 1 ล้านคน ที่น่าสนใจกว่านั้นคือ ในหนังสือเขียนว่าสามารถทำได้ภายใน 30 วันอีกต่างหาก

ผู้เขียนคือ Brendan Kane ซึ่งดูชื่อแล้ว ส่วนตัวผมก็ไม่รู้จัก มันเลยยิ่งน่าสนใจเข้าไปใหญ่ว่า คนที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้จักนั้น เขาทำอย่างไรที่ทำให้คนตามเขาเป็นล้านคน ภายใน 30 วันได้ (เพราะถ้าผู้เขียนเป็นดาราหรือนักกีฬาชื่อดัง เราก็คงรู้สึกว่า แหม ก็ดังขนาดนี้ แค่บอกว่ามี Page คนก็ตามเยอะแล้ว)

แต่อย่างไรก็ตามสุดท้ายก็พบว่าผู้เขียนถึงแม้ไม่ได้เป็นคนดังมาก่อน แต่เขาก็เป็น Digital Marketer หรือผู้เชี่ยวชาญทางด้านการตลาด Digital ให้กับดาราชื่อดังเช่นกัน ดังนั้นก็คงไม่ยากนักในการทำให้คนติดตามเขา (หรือแม้กระทั่งฝากให้ดาราเหล่านั้นช่วย share ให้ก็คงได้คนตามจำนวนไม่น้อย)

แต่เราก็อย่าไปติดกับตรงนั้นเลยครับ เพราะถ้าเราคิดว่า เป็นเพราะเขารู้จักดารานี่หน่า เป็นเราคงทำไม่ได้หรอก เราก็จะหยุดพัฒนา ส่วนตัวผมก็คิดว่าสิ่งที่เขาแนะนำในเล่มนี้ก็น่าจะ work เหมือนกัน เราอาจจะไม่ต้องทำให้ได้ 1 ล้านคนเหมือนเขา จริง ๆ แค่หลักแสนก็ดีใจแล้ว

เอาล่ะครับ เกริ่นมาซะนาน ขอสรุป Highlight ที่ผมชอบจากหนังสือเล่มนี้เลยละกันนะครับ

1. กระบวนการหลักในการสร้าง Followers คือ 1) ตั้งสมมุติฐานว่าสิ่งที่เราจะนำเสนอจะดึงดูดผู้ติดตามได้อย่างไร 2) ทดสอบ ให้ลองทำหลาย ๆ รูปแบบ หลาย ๆ ครั้ง และ 3) เปลี่ยนทิศทาง เมื่อทดสอบแล้ว เราต้องนำผลมาปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น

2. Platform ที่น่าจะเป็นหลักในการสร้าง Followers ได้ดีที่สุดในปัจจุบันคือ Facebook เนื่องจากเป็น Platform ที่มีจำนวนคนใช้เยอะที่สุดในโลกในปัจจุบัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราควรใช้ Platform เดียว เราอาจจะใช้หลาย ๆ Platform ร่วมกันได้

3. สิ่งสำคัญมากที่สุดในการสร้าง Followers คือ Content ที่เรานำเสนอ ถ้า Content ไม่มีประโยชน์กับคนติดตามแล้ว จะทำอย่างไรก็เติบโตยาก

4. เราไม่จำเป็นต้องลองผิดลองถูกเอง ให้ลองสังเกตคนที่ทำสำเร็จแล้ว ว่าเขาทำอย่างไร

5. การสร้าง Followers หลัก ๆ แล้วมี 2 วิธีคือ 1) การสร้าง Content ให้คน share ไปเรื่อย ๆ และ 2) การโฆษณา ดังนั้นการสร้าง Followers จึงต้องการทั้งเวลาและเงิน

6. สิ่งที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง คือใช้เงินซื้อ Followers มา นอกจากเปลืองเงินแล้ว เรายังได้ Followers ที่ไม่มีคุณภาพ ซึ่งไม่ได้ช่วยอะไรเราเลย (คำว่าไม่มีคุณภาพ แปลว่า Followers เหล่านั้น ไม่ได้มีความสนใจใน Content ของเราเลย)

7. ถ้าเราใช้วิธีการโฆษณาให้คำนวณความคุ้มค่าให้ดี เช่น ถ้าต้นทุนมันสูงกว่าของที่เราขายได้ (ในกรณีต้องการขายสินค้า) ให้หยุดโฆษณานั้นทันที

8. การให้คนที่ชื่อดังอยู่แล้ว มาช่วยเขียน Content ใน Page เรา ก็อาจจะเป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยทำให้คนติดตาม Page เรามากขึ้น นอกจากจะใช้วิธีให้คนดังเหล่านั้น share ข้อความเราใน Page ของเขา (ซึ่งหลายครั้งอาจจะต้องมี Cost เพิ่มเติม)

9. เลือกหัวข้อที่จะนำเสนอให้ชัดเจน ทำให้สม่ำเสมอ ควรเป็นหัวข้อที่เรารัก และ เรารู้มากพอ ถ้าต้องเลือก เลือกสิ่งที่เป็นตัวเราจริง ๆ ดีกว่า อาชีพของเรา (คือเช่นเราเป็นวิศวกรแต่เราชอบกีฬา ทำ Page กีฬาจะดีกว่า Page เกี่ยวกับวิศวกร) และอย่าลืมว่าต้องตอบให้ได้ว่า ทำไมเขาต้องมาติดตามเรา

10. การสร้าง Brand จะส่งผลต่อตัวเราในระยะยาว

11. อย่าหลอกหลวง เขียนความจริง ความเชื่อถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

12. ตั้งเป้าหมายให้ท้าทาย เราอาจจะทำไม่ได้ถึง 1 ล้านคนใน 30 วัน แต่การตั้งเป้าหมายที่ท้าทาย ถึงจะทำได้ไม่ถึง มันก็น่าทึ่งอยู่ดี

13. ปฏิบัติกับ Followers ของเราให้เหมือนกับเพื่อนเราคนหนึ่ง

14. ความล้มเหลวอย่างเดียวที่จะเกิดขึ้นได้ คือการล้มเลิก ถ้าเราไม่ล้มเลิก แต่ทดสอบ และ ปรับปรุง ในที่สุดเราก็จะสำเร็จในที่สุด

15. ทำให้เต็มที่ รอเวลา อย่ารีบร้อน อดทน และเริ่มวันนี้เพื่อความฝันของเรา

ในรายละเอียดลองไปหาอ่านกันได้ครับ ใครสนใจซื้อผ่าน Amazon ก็ได้ครับ https://amzn.to/2YZGRkb

ใครชอบฟัง Podcast ผม Review ไว้ใน Nopadol’s Story Podcast 5 ตอนตามนี้ครับ

1. EP 394 ทำอย่างไรในการสร้าง Followers

2. EP 397 เลือกกลุ่มเป้าหมายและสร้าง Content อย่างไรให้คนสนใจ

3. EP 398 ทำอย่างไรให้คน Share ข้อความใน Facebook

4. EP 399 การหา Partner ในการสร้าง Followers และการ Go Global

5. EP 401 สร้าง Followers ผ่านทาง Instagram Youtube Snapchat และ LinkedIn

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จในการสร้าง Followers นะครับ

อ่านบทความอื่น ๆ ได้ที่ www.NopadolStory.com หรือ Twitter Nopadol’s Story หรือฟัง Podcast Nopadol’s Story ได้ที่ https://nopadolstory.podbean.com/

เพิ่ม Productivity ได้ในนาทีเดียว

หลายคนอาจจะเคยพยายามเพิ่ม Productivity ให้กับตัวเอง เพราะอยากจะใช้เวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด สร้างผลงานให้มากที่สุด หลายคนต้องไปหาหนังสืออ่าน หรือแม้กระทั่งไปเข้าคอร์สที่สอนในเรื่องนี้ เสียเงินไปหลายพัน หรือบางทีก็หลักหลายหมื่นบาทกันเลยทีเดียว

ส่วนตัวผมก็สนใจเรื่องนี้ครับ อ่านหนังสือเรื่องนี้มาก็เยอะ (แต่ยังไม่เคยถึงกับไปเข้าคอร์สเรียน) ถามว่าช่วยไหม ก็ตอบว่าช่วยนะครับ เพียงแต่ว่าเผอิญมันเกิดเหตุการณ์บังเอิญบางอย่าง ทำให้ผมค้นพบวิธีที่สุดแสนจะง่ายที่จะทำให้เราทำงานได้เยอะขึ้นโดยอัตโนมัติ และใช้เวลาไม่นานเลยที่จะทำ

เหตุการณ์นั้นคือ… ผมลืมมือถือไว้ที่บ้านครับ

เมื่อเช้านี้ ขณะที่ผมขับรถออกจากบ้านไปไม่นาน ผมรู้ตัวว่าตัวเองลืมมือถือไว้ที่บ้าน ซึ่งจริง ๆ ก็ขับกลับไปเอาได้สบาย ๆ เพราะเวลาเดินทางก็เหลือเฟือ แถมเพิ่งออกมาได้ไม่กี่นาทีเอง แต่ผมกลับมีความคิดอย่างหนึ่งครับ

คือผมเกิดความรู้สึกว่า เอ ถ้าเราจะดำเนินชีวิตเราสักวัน โดยไม่มีมือถือมันจะเป็นอย่างไรกันนะ ก็เลยตัดสินใจ ขับต่อไปเลย โดยไม่สนใจ

ต้องบอกว่า มันเหมือนสิ่งเสพติดเลยครับ ผมรู้สึกอึดอัดทันที เวลารถติด แล้วไม่มีมือถือมากด Line อ่าน พอไปถึงที่ทำงานขณะที่รอประชุม มือก็เอาแต่ควานหาโทรศัพท์ตามความเคยชิน

แต่เมื่อเวลาผ่านไป ผมกลับพบว่า ชีวิตมันช้าลง ไม่ต้องมานั่งเช็ค Line Facebook เรื่อย ๆ แล้วสิ่งมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้นครับ

วันนี้ทั้งวัน ผมทำอะไรหลายอย่างเสร็จ แบบที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน เช่น ผมรวมคะแนนและตัดเกรดเสร็จไป 1 วิชา ผมอ่านงานนักศึกษาเสร็จไป 2 คน และยังทำงานเอกสารที่สำคัญเสร็จไป 1 งานอีกด้วย (นี่ไม่นับกิจกรรมอื่น ๆ ที่ได้ทำอีกเช่น อ่านหนังสือ คุยกับเพื่อนอาจารย์)

ผมมั่นใจว่า ถ้าผมมีมือถือติดตัว ผมอาจจะทำงานเหล่านี้ไม่เสร็จสักอย่างแน่นอน (ซึ่งวันนี้ที่ผมไปที่มหาวิทยาลัยก็เพราะผมมีประชุม 3 นัดเลย ซึ่งปกติวันที่มีประชุมแบบนี้ ผมแทบจะไม่สามารถทำอะไรเสร็จสักอย่าง เพราะระหว่างรอประชุม ผมก็เล่น Line เล่น Facebook ไปเรื่อย ๆ )

นี่ขนาดว่า ผมยังมีคอมพิวเตอร์ที่ต่อ Internet เลยยังสามารถมาเล่น Facebook กับ Line ได้บ้างบางเวลาด้วยนะครับ ลองคิดภาพว่าถ้าผมไม่มีการต่อ Internet เลย งานมันจะเสร็จไปมากแค่ไหน

ผมเลยได้คิดไงครับว่า เอ วิธีการเพิ่ม Productivity มันไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย ลองวางมือถือไว้ในที่ที่เราเข้าไม่ถึง ตัดขาดจาก Internet ถ้าจะใช้คอมพิวเตอร์ ก็อย่าต่อ Internet ใช้เวลาทำทั้งหมดไม่เกิน 1 นาทีครับ

บางทีเราอาจจะคิดว่าแหมเราเล่นแปีบเดียว ไม่เสียเวลาหรอก แต่เชื่อไหมครับ “แป๊บเดียว” ของเรา พอมันรวม ๆ กันมันหลักเป็นชั่วโมงต่อวันเช่นกัน เอาเวลาเหล่านั้นคืนมาได้ง่ายมาก จากการเอามือถือไปไกล ๆ ตัวเราครับ ทำได้ไม่ยากจริง ๆ ขึ้นกับว่าเราจะทำหรือไม่

ลองดูสิครับ ไม่เสียหายอะไร ถ้าลองแล้วมันไม่ใช่ ก็เลิกก็แค่นั้น แต่ผมลองมาแล้วมันใช่ เลยอยากมาแนะนำน่ะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ทำอีกดีกว่า 555

อ่านบทความอื่น ๆ ได้ที่ www.NopadolStory.com หรือเข้าร่วมกลุ่ม Line@ ได้ที่ https://line.me/R/ti/p/%40nopadolrompho