ตอนนี้ ไปอ่านหนังสือเล่มไหน ไปเจอใคร ก็มีแต่คนแนะนำว่า “เราต้องออกจาก Comfort Zone” “อยากประสบความสำเร็จเราต้องกล้าสิ” “จะไปกลัวอะไรกับความล้มเหลว” หรือข้อความทำนองนี้จำนวนมาก

คำถามคือ ความคิดแบบนี้มาจากไหน ถ้าให้ผมเดา ผมก็ว่าก็คงมาจากคนที่แต่ก่อน ไม่กล้าจะทำอะไร แล้วพอรวบรวมความกล้า แล้วทำสิ่งนั้น แล้วสำเร็จ เขาก็เลยออกมาเล่าให้คนอื่นฟัง

แต่ผมก็มองว่า มันก็คงจะต้องมีคนที่ตัดสินใจ “ออกจาก Comfort Zone” แล้วไม่ work แต่คนเหล่านั้น ไม่ได้มีโอกาสมาออกหนังสือ หรือ ขึ้นเวที มาเล่าประสบการณ์ที่มันไม่ work ให้คนอื่นฟัง เราจึงเห็นคำแนะนำว่าควรออกนอก Comfort Zone มากกว่า ไม่ควรออกนอก Comfort Zone

คำถามคือ เราต้องออกนอก Comfort Zone จริงเหรอ

ผมเชื่อว่าหลายคน คงมีคำถามที่เวียนวนไปอย่างนี้ ผมก็เป็นครับ แต่วิธีที่ดีที่สุดในการตอบคำถามนี้ได้ ก็คือเราต้องลองทำเอง ไม่งั้น เราก็ฟังเขา แล้วเอามาพูดต่อ ใช่ครับ เล่นเอง เจ็บเอง มันถึงจะรู้เองครับ

เอาเป็นว่าผมก็อยู่ระหว่างการออกนอก Comfort Zone ครับ แล้วก็ได้รับบทเรียนหลาย ๆ อย่าง เลยขอนำมาแบ่งปันให้กับคนอื่นได้ทราบกันด้วย ผมว่าการออกนอก Comfort Zone นั้น ควรจะทำหรือไม่ เราต้องตอบคำถามเหล่านี้ให้ได้ชัดเจนก่อนครับ

ข้อที่ 1 เราจะออกไปทำไม

เอาคำถามนี้ให้ชัดก่อนนะครับ เพราะผมว่าคำถามนี้เป็นคำถามที่หลายคนไม่ได้ตอบก่อนออกนอก Comfort Zone คืองี้ครับ เวลาเราอ่านหนังสือ หรือ คนพูดให้ฟัง เขาบอกว่าที่ที่เราอยู่มันเหมือนกับเป็นที่ที่เรารู้สึกสบาย รู้สึกปลอดภัย จนทำให้เราไม่กล้าไปทำสิ่งใหม่ ๆ พอเราไม่กล้าทำสิ่งใหม่ ๆ เราจึงไม่สามารถบรรลุผลลัพธ์ที่เราคาดหวังไว้ได้

คราวนี้ ก็เลยกระตุ้นให้ออกไปทำ “สิ่งใหม่ ๆ ” แต่ที่ลืมคุยกันคือ “สิ่งใหม่ ๆ ” ที่ว่าน่ะ มันคือสิ่งที่เราต้องการจริง ๆ หรือเปล่า

ใช่ครับ คำว่า “สิ่งใหม่ ๆ ” มันคือ สิ่งที่เราไม่เคยทำ ก็แปลว่า มันอยู่นอก Comfort Zone ของเรา แต่สิ่งใหม่ ๆ มันมี 2 แบบครับ คือ สิ่งใหม่ ๆ ที่เราไม่เคยทำ แต่มันตอบโจทย์เรา กับ สิ่งใหม่ ๆ ที่เราไม่เคยทำ และก็ไม่ตอบโจทย์เรา ตรงนี้แหละครับที่หลายคนหลงทาง ไปทำสิ่งใหม่ ๆ โดยไม่สนใจว่า ทำแล้ว มันตอบอะไรเรา

ยกตัวอย่างนะครับ เราเขียนหนังสือ แล้วรายได้มันก็พอมี วันหนึ่ง เราคิดว่า ต้องออกนอก Comfort Zone เราเลย ไปร้องเพลง ร้องก็ร้องไม่เก่ง ชอบก็ไม่ชอบ ทรมานอยู่นาน สุดท้ายก็พอร้องได้ ถามว่ามีความสุขไหม ไม่มี อ้าว แล้วทำไมไม่กลับไปเขียนหนังสือตามที่เราถนัดล่ะ คำตอบคือ ก็อยากออกนอก Comfort Zone ผมว่าอย่างนี้ไม่ใช่

แต่ถ้าเราเขียนหนังสือ แล้ววันหนึ่ง เราออกมาจัด Course โดยเอาเนื้อหาที่เราเขียนนั่นแหละมาสอน ใหม่ ๆ ก็กล้า ๆ กลัว ๆ เพราะไม่แน่ใจว่าจะมีใครสนใจหรือเปล่า แต่สักพัก ก็คุ้น คนก็เข้า Course มาเรื่อย ๆ หนังสือก็ขายดี เราก็รักสิ่งที่เราทำ ทั้งเขียนหนังสือ ทำสอนใน Course แบบนี้สิครับ ที่เรียกว่า ออกนอก Comfort Zone ที่ตอบโจทย์เรา

เอาง่าย ๆ คือ ออกไป แล้วมันตอบโจทย์เราหรือเปล่านะครับ มันใช่ทิศทางที่เราจะไปหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ อย่าออกมาครับ อยู่ใน Comfort Zone นั่นแหละ

ข้อที่ 2 เราพร้อมแค่ไหน

แหม บางคนบอก ก็ข้อนี้แหละที่เป็นข้ออ้างของหลายคน ที่สุดท้ายก็ไม่กล้าทำอะไรใหม่ ๆ เพราะว่า “เรายังไม่พร้อม” ใช่ครับ บางทีเราเอาสิ่งนี้เป็นข้ออ้าง แต่ก็ไม่ใช่ว่า ถ้างั้น ฉันไม่สน พร้อมไม่พร้อม ลุยเลย แบบนั้นก็คงไม่ไหว

สมมุตินะครับ เรามีงานประจำ มีเงินเดือนเดือนละ 30,000 บาท มีลูก 2 คน มีรถและบ้านที่ต้องผ่อน ใช้เงินเดือนชนเดือน วันหนึ่งเราลุกขึ้นมาแล้วบอกว่า เราจะออกนอก Comfort Zone ฉันจะขายของ Online ว่าแล้ว พรุ่งนี้ลาออกเลย แล้วไปเปิด Website ขายของ Online ก่อนที่จะรู้ว่า ขายไม่ออกเลย ได้เงินเดือนละ 2,000 บาท ลูกมาขอค่าเทอมก็ไม่มีให้ รถ บ้านก็โดนยึด แบบนี้คงไม่ไหว คือเราออกมา โดยเราไม่มีความพร้อมเลย

ผมไม่ได้บอกว่า งั้นก็อยู่มันใน Comfort Zone ไปเรื่อย ๆ นะครับ อยากออกทำได้ แต่เตรียมตัวหน่อย ลองทำ Website ขายของ Online ตอนที่ยังทำงานอยู่นี่แหละ ใช้เวลาเสาร์อาทิตย์ หรือเย็น ๆ ก็ได้ ลองขายดูก่อน ถ้าขายไม่ได้ ค่อย ๆ หาทางใหม่ จนกระทั่งมันเริ่มขายได้ รายได้มากขึ้นเรื่อย ๆ จุดหนึ่ง พอจะมั่นใจว่าอยู่ได้แล้ว ค่อยลาออกยังได้

ดูช่วงเวลาที่เหมาะสม ดูความพร้อมก่อน เราไม่ได้เอาสิ่งนี้มาเป็นข้ออ้างในการไม่กล้าทำสิ่งใหม่ ๆ นะครับ แต่อยากให้ประเมินตามจริง ถ้ามันยังไม่ไหว อยู่ใน Comfort Zone ของเราต่อไปก่อนครับ

ข้อที่ 3 ออกนอก Comfort Zone แล้ว เราจะเสียอะไรไปบ้าง

ผมว่าคำถามนี้ เป็นคำถามที่คนไม่ค่อยถาม คนมักจะมองแค่ว่า ออกนอก Comfort Zone แล้วเราจะได้อะไรบ้าง เช่น ทำงานประจำอยู่ อยากออกมาทำธุรกิจเอง คนก็จะคิดว่า ออกมาแล้ว เราจะได้มีอิสระ ไม่ต้องไปทำงานทุกวัน เป็นเจ้านายตัวเอง อันนั้นมันคิดแต่ได้ครับ จริง ๆ การออกนอก Comfort Zone มันมีสิ่งที่เสียไปด้วย เช่น เงินเดือนที่ได้ทุกเดือน งานที่อาจจะหาได้ไม่ง่ายนัก เพื่อนร่วมงาน ฯลฯ

บางคนก็อาจจะบอกว่า ไม่เห็นเป็นไรเลย ออกมาแล้วมันไม่ work ก็กลับไปทำงานใหม่ก็ได้ อย่างนี้ก็ไม่เสียอะไรใช่ป่ะ ก็ยังเสียครับ อย่างน้อย ๆ ก็เสียเวลาอันมีค่าไปเหมือนกัน เวลาที่เราจะเอาไปทำงานให้ก้าวหน้า อะไรแบบนี้ คือไม่ได้บอกไม่ให้ออก แต่ให้ดูความเสี่ยงตรงนี้ด้วย

ถ้าออกมาแล้ว สิ่งที่อาจจะเสียไปมันมากกว่าสิ่งที่จะได้มา แบบนั้น อย่าเพิ่งออกครับ อยู่ใน Comfort Zone ของเราไปก่อน ค่อยไปหาที่ใหม่ ๆ ที่ออกไปแล้ว มันจะได้สิ่งที่คุ้มค่ากับสิ่งที่เราจะเสียไป แล้วค่อยตัดสินใจอีกทีก็ได้

ดูเหมือนบทความนี้ จะไม่ต้องการให้คนออกนอก Comfort Zone นะครับ แต่จริง ๆ ไม่เลยครับ แค่เตือนสติไว้เท่านั้น บอกแล้วว่า ทดลองด้วยตัวเองแล้ว ได้บทเรียนมาเองเช่นกัน โดยเฉพาะข้อแรก แต่ข้อดีก็คือ ถ้าไม่ออกก็ไม่ได้เรียนรู้ เลยอยากเอามาเล่าให้คนอื่น ๆ ฟังด้วยน่ะครับ

แต่ถ้าใครถามคำถามนี้ครบ แล้ว สรุปว่า ได้หมด ชัดเจน ก็ไม่ต้องรอครับ ออกมากันได้เลย

อ่านบทความอื่น ๆ ได้ที่ www.NopadolStory.com หรือเข้าร่วมกลุ่ม Line@ ได้ที่ https://line.me/R/ti/p/%40nopadolrompho