มาเปลี่ยนเกมฟุตบอลกันใหม่เหอะ

ผมเป็นคนชอบกีฬาครับ จะเรียกว่าเกือบทุกประเภทเลยก็ว่าได้ คำว่าชอบ นี่รวมทั้งชอบเล่น และ ชอบดูนะครับ บางอย่างเล่นได้ดูได้ บางอย่าง ขนาดเล่นไม่เป็นยังชอบดูเลยครับ

แต่ถ้าจะเอาแบบชอบมาก ๆ ก็หนีไม่พ้นฟุตบอลครับ เลยอยากเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬานี้ก่อนเลยนะครับ

แต่ก่อนผมคิดมานานแล้วว่า ทำไม กีฬาฟุตบอลมันถึงไม่เอาเทคโนโลยีมาใช้ซะที ทั้ง ๆ ที่พวกเทคโนโลยี ประเภทที่ว่า ยิงประตูเข้าไหมเนี่ย มันสามารถทำได้ตั้งนานแล้ว กีฬาอย่างแบดมินตัน เทนนิส อเมริกันฟุตบอล ก็ทำกันเยอะแยะ แต่พวกผู้บริหาร FIFA เนี่ย ก็ดาหน้ามาบอกว่าเป็นเสน่ห์ของฟุตบอล…

คือตัดสินผิด ๆ เนี่ยนะเป็นเสน่ห์ ถ้างั้นแนะนำให้ โยนหัวก้อยเลย หัวยิงเข้า ก้อยยิงออก แล้วก็บอกว่าเป็นเสน่ห์ของฟุตบอล ดีไหม

อีกข้อโต้แย้งคือ ถ้าใช้เทคโนโลยี การแข่งขันฟุตบอลแบบระดับตำบลอะไรแบบนี้ มันจะทำไม่ได้ มันก็จะไม่เท่าเทียมกัน

ถามว่าแล้วมันต้องทำให้ได้เหมือนฟุตบอลพรีเมียร์ลีก หรือ ฟุตบอลโลก เหรอ อย่างนั้นพวกตีเทนนิสระดับตำบล ก็ตีไม่ได้ดิ เพราะไม่มีเทคโนโลยีพวกนี้ คำตอบคือเขาก็ตีเขาได้ครับ ตรงไหนที่ยังขาดแคลนก็ใช้คนอย่างเดียวก็ได้ แต่ใครพร้อมก็ทำไป

โชคดีว่า ตอนนี้เขาเริ่มปรับแล้ว และเริ่มเอาเทคโนโลยีมาใช้มากขึ้น

อันต่อมา ผมเคยมีความคิดว่า ทำไมฟุตบอลมันไม่มีกฎ Challenge แบบอเมริกันฟุตบอล หรือ เทนนิส ถ้าใครไม่คุ้นเคยกับกฎนี้ ผมเล่าให้ฟังนิดหนึ่งครับ คือกีฬาอย่างอเมริกันฟุตบอล หรือ เทนนิส ถ้านักกีฬา เขาไม่พอใจการตัดสินของกรรมการ เขาก็จะ Challenge คำตัดสิน ทำให้กรรมการต้องกลับไปดูภาพช้าอีกครั้ง แล้วค่อยตัดสินใหม่ บางทีก็คงคำตัดสินเดิม บางทีก็กลับคำตัดสิน เพราะพอดูภาพช้าแล้วตัดสินผิดจริง ๆ

คนที่ต่อต้านแนวคิดนี้ ก็จะบอกว่า กฎ Challenge ทำให้เกมหยุดไม่ต่อเนื่อง…

งั้นผมถามว่า เวลามันเกิดการตัดสินที่มันกังขา เกมไม่หยุดเหรอครับ… บางทีรุมไปประท้วงกรรมการใช้เวลานานกว่าการที่จะให้กรรมการไปดูภาพช้าซะอีก

เช่น ลูกนี้ลูกโทษหรือเปล่า ถ้าให้ลูกโทษผมก็เห็นกองหลัง กองกลาง กองหน้า ไปรุมกรรมการ กรรมการก็ต้องมานั่งอธิบาย หรือถ้าเฮี๊ยบ ๆ หน่อย ก็แจกใบเหลืองไป

ถามว่าเกมหยุดไหม คำตอบคือหยุดเหมือนกัน นานด้วย แถมมีแต่ความคับข้องใจ

เอากฎ Challenge มาใช้สิครับ อาจจะมีกรรมการที่ 4 อยู่ข้างสนามคอยดูกล้องก็ได้ ดูแล้วส่งสัญญาณให้กรรมการในสนาม หรือจะให้กรรมการในสนามวิ่งมาดูกล้องข้างสนามก็ทำได้

เชื่อสิครับ ทำแบบนี้ ใช้เวลาน้อยกว่าให้นักเตะมาประท้วงอีก แถมมันยังชัดเจนด้วย

บางคนอาจจะบอก งั้นโค้ชหรือนักเตะมันก็ Challenge อยู่เรื่อยสิ ก็จำกัดสิครับ แบบเทนนิส อเมริกันฟุตบอล เขาก็จำกัดว่า Challenge ได้ไม่เกินกี่ครั้ง แต่ถ้า Challenge มั่วซั่วโควต้ามันก็หมดเอง

อย่างฟุตบอล ผมเสนอว่าให้ Challenge ได้ 3 ครั้งใน 1 เกม และถ้า Challenge แล้ว กรรมการตัดสินถูก ทีมที่ไป Challenge โดนริบ Quota เปลี่ยนตัวไป 1 คน อะไรแบบนี้ หรือถ้าเปลี่ยนครบ 3 คนแล้ว ก็แปลว่าหมดสิทธิ Challenge ก็ได้ หรือจะให้สิทธิอีกแค่หนึ่งครั้ง อะไรแบบนี้

อย่างนี้ เขาก็ไม่ Challenge มั่วซั่วแล้วครับ

อ้อ แล้วถ้าจะบอกว่า แต่ฟุตบอลระดับตำบลไม่มีกล้อง ก็ใช้กฎเดิมไปสิครับ ไม่ต้องมี Challenge ก็ได้ แต่ที่ไหนพร้อม เช่นระดับบอลโลก บอลยุโรป บอลระดับชาติ ก็ทำไป ไม่เห็นแปลก เทนนิสเขาก็ยังทำได้เลย

ตอนนี้ก็ดีขึ้นมาหน่อยครับ กรรมการมีสิทธิฟังกรรมการข้างสนาม ดูภาพช้า ก่อนตัดสินได้ แต่ผมอยากให้สิทธิทีม Challenge ได้อย่างเต็มรูปแบบเหมือนที่บอกข้างต้น

เรื่องต่อไป เรื่องการถ่วงเวลา

บางคน บอกนี่คือเสน่ห์ของฟุตบอล (อีกแล้วครับท่าน) ส่วนตัวผม ผมว่ามันทำลายความสวยงามของเกม ต่อให้เป็นทีมที่ผมชอบก็เถอะ คือเราอยากดูฟุตบอลมากกว่ามาดูคนแกล้งเจ็บไหมครับ

บางทีก็มีแบบเปลี่ยนตัวตามเทคติก เช่น ใกล้ ๆ หมดเวลาก็เรียกนักเตะสำรองมาเปลี่ยนตัว นักเตะตัวจริงก็ค่อย ๆ เดินออก พูดง่าย ๆ เพื่อถ่วงเวลานั่นแหละ เพราะทีมตัวเองนำอยู่ เห็นแล้วสงสารนักเตะสำรอง ลงมาจะได้โดนบอลหรือเปล่ายังไม่รู้เลย ต้องเปลี่ยนชุดมาครบ

หรือนักเตะบางคนพอโดนเตะนิดหน่อย ก็โอดโอย นอนบิดไปบิดมา คือถ้าเจ็บจริงไม่ว่านะครับ แต่หลายครั้งมันแกล้งเจ็บเพื่อถ่วงเวลา เห็นแล้วมันขัดตามาก (เน้นว่า ถึงแม้เป็นทีมที่ผมเชียร์ ผมก็ไม่ชอบเหมือนกันนะครับ)

แล้วให้ทำไง

ผมเสนอว่า ให้จับเวลาเฉพาะตอนเล่นในสนามครับ ลูกออกนอกสนามเวลาหยุด กรรมการเป่าฟาวล์ เวลาหยุด แบบนี้ ไอ้ประเภท จะแกล้งเจ็บมันจะหมดไปเลย เพราะพอลงไปนอนกรรมการเป่าปุ๊บ เวลาหยุดปั๊บ หรือประเภทเปลี่ยนตัวเพื่อถ่วงเวลา ก็ไม่มีประโยชน์ เพราะพอจะเปลี่ยน เวลาหยุด ไอ้คนที่จะเดินออกนอกสนามมันจะเดินช้ายังไง ก็ไม่ส่งผล เพราะเวลาหยุด

และถ้าคิดว่า โหอย่างนี้เกมมันก็นานสิ เพราะ 90 นาที นี่มันรวมเวลาทั้งหมด ก็ลดเวลาลงสิครับ เตะสัก 70 นาทีก็ได้ (อันนี้ต้องลองดูสถิติดูนะครับว่า ปกติ บอลที่อยู่ในการเล่นนั้น เฉลี่ยเกมละกี่นาที)

อย่างนี้ รับประกันว่าเล่นกันเต็มที่ ถ่วงเวลาไม่มีผลแล้ว

เรื่องสุดท้าย พวกนักเตะ นักเลง

ตอนนี้มันมีนักเตะประเภทที่ไล่เตะคนอื่น ที่สำคัญมันทำให้นักเตะคนอื่นเจ็บกันเป็นเดือน ๆ หรือเป็นปีก็มี ถามว่าตัวเองโดนอะไร คำตอบคือโดนใบแดง แบน 3 นัด แต่เพื่อนนักเตะ เจ็บไปเป็นปี แบบนี้มันยุติธรรมเหรอครับ

ผมเสนอแบบนี้ครับ นักเตะที่เตะเพื่อนจบเจ็บ และได้ใบเหลือง ใบแดงนั้น ผมเสนอให้แบนเท่ากับเพื่อนที่ต้องรักษาตัว เช่นใครไปเตะคนอื่นขาหัก ก็โดนแบนจนคนนั้นกลับมาเล่นได้อีกครั้งเลย เพื่อนต้องรักษาตัว 6 เดือน ก็แบนไป 6 เดือน

ผมว่ามาตรการแบบนี้ มันจะลดความเกเรของนักเตะลงไปได้มาก ใช้ครับฟุตบอลมันต้องมีปะทะ ไอ้แบบที่ไม่ตั้งใจ อันนั้นพอให้อภัยได้ แต่ประเภทเปิดปุ่ม ย่ำเท้า พุ่งเข้าเสียบข้างหลัง ก็ประเภทที่กรรมการให้ใบแดง นั่นแหละ อย่างนั้นแบนเท่าที่เพื่อนนักเตะต้องรักษาตัวกันไปเลย

ผมเชื่อว่าแบบนี้ เขาจะระมัดระวังมากขึ้น เกมฟุตบอลก็จะสวยงามมากขึ้น แข่งกันที่ฝีมือและเทคติกมากขึ้น

ไม่รู้นะครับ มันเป็นความคิดของผม ผมว่าถ้าเปลี่ยนไปแบบนี้ เกมจะสนุกขึ้น ความสกปรก ความน่าเบื่อ ความผิดพลาดก็จะลดลง

ด้วยความรักที่มีต่อเกมฟุตบอลครับ

อ่านบทความอื่น ๆ ได้ที่ www.NopadolStory.com หรือเข้าร่วมกลุ่ม Line@ ได้ที่ https://line.me/R/ti/p/%40nopadolrompho