อันนี้เป็นสิ่งที่ผมเคยตั้งข้อสังเกตมาได้สักพักหนึ่งละ คือหลังจากได้อ่านหนังสือของคนที่ประสบความสำเร็จมาหลาย ๆ เล่ม ผมพบความจริงข้อหนึ่งว่า คนสำเร็จมาก ๆ ที่เราเจอนั้น มักจะเป็นคน 2 กลุ่มได้แก่
ประเภทแรก คนที่ยากจนข้นแค้นมาก ๆ แบบไม่มีอันจะกิน เสร็จแล้ว ขยันขันแข็ง จนเปลี่ยนชีวิตตัวเองขึ้นมา และสำเร็จในที่สุด กับประเภทที่ 2 คือคนที่เป็นทายาทของเศรษฐี และต่อยอดธุรกิจเดิมที่บ้าน หรือจะออก มาทำธุรกิจใหม่ และก็ยิ่งสำเร็จขึ้นไปอีก
ถึงแม้จะมีรูปแบบอื่น ๆ อีก แต่ต้องบอกว่าส่วนใหญ่ที่เจอคือ 2 แบบที่บอกนี่แหละ และจะว่าไป แบบแรกเจอมากกว่าแบบสองซะด้วยซ้ำ
ผมเลยตั้งคำถามว่า งั้นแปลว่า คนสำเร็จมันจะต้องจนมาก ๆ มาก่อนใช่ไหม ทำไม เราไม่เคยเจอแบบ ชนชั้นกลางทั่ว ๆ ไป ทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือน แล้วประสบความสำเร็จมาก ๆ บ้าง
จนกระทั่งผมคิดว่า ผมได้คำตอบแล้วล่ะครับ … ขออนุญาตไล่มาเป็นข้อ ๆ ก็แล้วกันนะครับ
ข้อแรก ผมว่าก็มีครับ ชนชั้นกลาง ไม่ได้จนมากมาย ไม่ได้รวยมากมาย แต่ด้วยความมานะพยายาม หรือความเก่ง เขาก็ประสบความสำเร็จมาก ๆ แบบนี้อาจจะมีไม่น้อย เผลอ ๆ อาจจะมากกว่าแบบยากจนข้นแค้นซะด้วยซ้ำ เพียงแต่ว่า เราไม่เคยได้อ่านเรื่องราวของเขา เพราะเรื่องมันไม่น่าสนใจไงครับ
ลองคิดภาพดูว่า ระหว่างเรื่องคนที่เคยเป็นขอทาน แล้วเปลี่ยนชีวิตมาเป็นเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ กับ คนที่เป็นลูกของวิศวกร แล้วเติบโตก้าวหน้าเป็นเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ เรื่องไหนที่เขียนหนังสือแล้วมันจะขายดีกว่ากัน แน่นอนคงต้องเป็นเรื่องแรก ถึงแม้ว่า มันเป็นกรณีที่เกิดขึ้นน้อยมาก ๆ ก็ตาม อันนี้แหละทำให้เราเห็นแต่กรณีแบบนี้
ข้อที่ 2 เอาล่ะ นอกจากเหตุผลข้อแรกแล้ว ผมว่ามีเหตุผลอีกข้อที่สามารถอธิบายได้ว่า คนที่ประสบความสำเร็จมาก ๆ หลาย ๆ คนเคยยากจนมาก ๆ มาก่อน ก็เพราะว่า คนที่ยากจนมาก ๆ มักจะกล้าเสี่ยงกว่าคนที่พอมีพอกินไงครับ
ทำไมจึงเป็นแบบนี้ ก็ต้องบอกก่อนว่า คนที่ยากจนมาก ๆ เขาแทบไม่มีอะไรจะเสีย คือ ถ้าอยู่ที่เดิม ก็มีแต่จะอดตาย เพราะฉะนั้นแรงผลักดันของเขาจึงเยอะมาก คือไม่เปลี่ยนก็ไม่รอด ดังนั้นเขาจึงกล้าเสี่ยง ทำธุรกิจ ค้าขาย หรืออะไรก็ตาม เพราะถ้ามันจะล้มเหลว เขาก็ไม่ได้แย่ไปกว่าเดิม เพราะต้นทุนของเขาแทบจะไม่มีเลยด้วยซ้ำ คืออย่างมาก ก็ลำบากเท่าเดิม
คราวนี้ลองมาดูชนชั้นกลางทั่ว ๆ ไปบ้าง คนกลุ่มนี้มีพออยู่พอกิน มีเงินเดือนพอเลี้ยงชีพได้ มีครอบครัว มีภาระต่าง ๆ ลองคิดว่า เขาจะกล้าลาออกมาทำธุรกิจ มาลงทุน มาเสี่ยงมากแค่ไหน คำตอบคือคงยาก เพราะถ้าพลาดมา เขาจะตกจากชีวิตที่พอไปได้ มาเป็นชีวิตที่ลำบากทีเดียว ยิ่งมีครอบครัวที่ต้องดูแล เขายิ่งไม่กล้าที่จะเสี่ยงใหญ่
พอไม่กล้าเสี่ยง ก็ต้องอยู่รับเงินเดือนไปวัน ๆ โอกาสที่จะสำเร็จมาก ๆ มันก็น้อยตามไปด้วย
ถ้ามองแบบนี้เราจึงมักจะเห็นคนที่สำเร็จมาก ๆ ถ้าไม่มาจากคนที่ยากจนมาก ๆ ที่พร้อมจะเสี่ยงเพราะไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว ก็อาจจะมาจากคนรุ่นหนุ่ม เพราะเขายังไม่มีภาระอะไรมาก ทำธุรกิจ ถ้าเจ๊ง ก็ไม่เป็นไร หรือ คนที่รวยมากอยู่แล้ว เพราะถึงเจ๊ง เงินยังมีอีกเหลือเฟือ
แต่คนชั้นกลาง มนุษย์เงินเดือนที่ทำงานมั่นคงมาระยะหนึ่งแล้วนี่แหละครับ ที่ติดกับดัก ทำให้เขาไม่กล้าที่จะออกมาทำอะไรที่เสี่ยง จึงไม่แปลก ที่เรามักจะไม่ค่อยเห็นเรื่องราวความสำเร็จของคนกลุ่มนี้สักเท่าไร
ก็เป็นความคิดเห็นของผมนะครับ ไม่รู้ถูกผิดอย่างไร แต่น่าจะพออธิบายปรากฏการณ์ดังกล่าวได้พอสมควรครับ
อ่านบทความอื่น ๆ ได้ที่ www.NopadolStory.com หรือเข้าร่วมกลุ่ม Line@ ได้ที่ https://line.me/R/ti/p/%40nopadolrompho