5 วิธีการจัดการเวลา

มีคนเคยถามผมว่า “ไปเอาเวลามาจากไหน” “ไม่ได้หลับ ได้นอนกันป่ะเนี่ย”

ทำไมถึงถามเหรอครับ เพราะ เขาเห็นผมทำอะไรเยอะแยะเต็มไปหมด ยกตัวอย่างนะครับ อย่างเทอมนี้ ผมสอนทั้งหมด (ทั้งระดับปริญญาตรีและปริญญาโท) 6 วิชา มีผลงานวิจัยตีพิมพ์ประมาณเทอมละ 1 เรื่อง เขียนหนังสือประมาณปีละ 3 เล่ม เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา นักศึกษาปริญญาเอก 5 คน เป็นกรรมการชุดต่าง ๆ นับรวมแล้วเกือบ 20 ชุด (คือตกใจเหมือนกัน เยอะไปมั้ยเนี่ย)

แต่ผมก็ยังมีเวลาออกกำลังกาย โดยการวิ่ง 5 กิโลเมตร ประมาณสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง (อยากเพิ่มอีก) มีเวลาอ่านหนังสือสัปดาห์ละประมาณ 4-5 เล่ม ไปรับลูก ๆ ได้ประมาณสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง แถมเขียนบทความลง Page และ Blog วันละ 3-4 บทความ คือที่เขียนมาไม่ได้โม้ว่า ผมทำงานเก่งอะไรนะครับ แต่กำลังจะบอกว่า ถ้าผมทำได้ ใคร ๆ ก็ทำได้

ว่าแต่ ไปเอาเวลามาจากไหนเนี่ย 555

พอมีคนถาม มันก็เลยทำให้ผมมานั่งคิด เอ หรือว่า เรามีเวลามากกว่าคนอื่นฟะ

ไม่ใช่หรอกครับ ผมก็มีเวลาเท่ากับคนอื่นแหละครับ แต่ผมมีเทคนิคบางอย่างที่ทำให้ผลงานมันออกมา ดูประหนึ่งว่า ผมใช้เวลามากกว่าคนอื่นหลายเท่า

เคล็ดลับข้อที่ 1 รู้จักปฏิเสธ

ปัญหาของการที่เรามีงานยุ่ง มันเริ่มจากเราต้องทำงานที่ใช้เวลามากเกินกว่าเวลาที่เรามี ดังนั้นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุคือการทำให้งานมันเข้ามาน้อยลงครับ

หลายคนเป็นคนใจดี คือใครขออะไร ทำให้หมด สุดท้าย ก็กลายเป็นว่างานมันก็เข้ามาเต็มไปหมด ทำกันแทบไม่หวาดไม่ไหว แต่ก่อนผมก็เป็นอย่างนี้ครับ เกรงใจเขา ใครให้ทำอะไร ก็ทำหมด ถ้าพอทำได้ แต่หลัง ๆ มานี่ ผมรู้ตัวเลยครับว่า การที่เราทำไปด้วยความเกรงใจ สุดท้าย มันไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์กับทั้งเราและเขาเลยครับ คือ เราก็จะไม่มีเวลาที่จะไปทำงานที่เราชอบ เราถนัด และทำได้ดี ส่วนคนที่ให้เราทำ บางครั้งก็อาจจะต้องมารอเรา ทั้ง ๆ ที่ถ้าเขาให้คนอื่นที่ถนัดกว่า ว่างกว่าทำ แป๊บเดียวก็เสร็จแล้ว และงานก็ดีกว่าด้วย

เอาตัวอย่างจากตัวผมก็ได้ครับ หลัง ๆ ถ้าใครมาขอให้ผมสอน วิชาที่ผมไม่ถนัด ผมก็ตอบกลับไปอย่างสุภาพเลยครับว่า เรื่องนี้ ไม่ได้อยู่ในความเชี่ยวชาญของผม ให้ท่านอื่นสอนดีกว่า เพราะถ้าผมรับมาด้วยความเกรงใจ สุดท้ายผมต้องเสียเวลามหาศาลในการเรียนรู้เรื่องนั้น ๆ ใหม่ และแถมว่า อาจจะสอนได้ไม่ดีกว่าท่านที่มีความเชี่ยวชาญมากกว่าผมอีก

แต่ผมทราบดีครับว่า หลายคน อาจไม่อยู่ในสถานะที่จะปฏิเสธงานในที่ทำงานได้ เพราะเจ้านายสั่งมา จะไม่ทำก็คงไม่ได้ แต่ที่ผมหมายถึงการปฏิเสธนี้ มันรวมถึงทุกเรื่องด้วยนะครับ เรื่องชีวิตประจำวันก็ใช่นะครับ เช่น เพื่อนชวนไปกินข้าว เราก็ไม่จำเป็นต้องไปมันทุกครั้งที่เขาชวนด้วยความเกรงใจ คืออะไรที่เราอยู่ในฐานะที่ปฏิเสธได้ เราก็ปฏิเสธไปได้เลยครับ ทุกครั้งที่เราปฏิเสธสำเร็จ เราจะได้เวลานั้น ๆ คืนมาอัตโนมัติครับ

เคล็ดลับที่ 2 เลือกงานที่ทำ

เอาล่ะครับ พอเรามีเวลากลับคืนมาจากการปฏิเสธงานที่เราไม่ถนัด หรือ ไม่ตรงกับเป้าหมายเราแล้ว สิ่งที่เราควรทำต่อมาคือ เราควรจะเลือกใช้เวลาที่เรามีอย่างคุ้มค่านะครับ ไม่ใช่พอมีเวลามา เราเอาไปใช้อย่างสุรุ่ยสุร่าย เวลาก็เหมือนเงินครับ กว่าจะหามาได้ ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ถ้าเราใช้เวลาแบบไม่มีเป้าหมาย สุดท้ายเวลาเราก็หมด

วิธีเลือกง่าย ๆ คือ เราควรเลือกงานที่เราชอบและถนัด เพราะการทำสิ่งที่ชอบและถนัดนั้น เป็นวิธีที่จะทำงานให้ได้ผลลัพธ์มาก โดยใช้เวลาน้อย โดยธรรมชาติอยู่แล้ว เราไม่จำเป็นต้องทำให้ได้ทุกเรื่องครับ เราแค่ทำบางเรื่องให้มันดีมาก ๆ ก็เพียงพอแล้วสำหรับความสำเร็จ

เคล็บลับที่ 3 ใช้เงิน ซื้อเวลา

อ้าว ไหนบอกว่า ทุกคนมีเวลาเท่ากันไง ใช่ครับ ทุกคนมีเวลา “ของตัวเอง” เท่ากัน แต่ เราสามารถใช้เงินมาซื้อเวลาของคนอื่นให้ทำงานบางอย่างแทนเราได้ครับ

สิ่งที่ผมอยากแนะนำคือ อะไรที่เราไม่ถนัด เราทำได้ไม่ดี เราอย่าทำเองครับ ให้มืออาชีพเขาทำให้ดีกว่าเราเยอะ ใช่ครับ ทำเอง เราประหยัดเงินได้ แต่เราเสียเวลาไปมากมาย เรียกว่า ไม่คุ้มค่ากับเงินที่ประหยัดได้หรอกครับ บางคนขี้เหนียว กลัวเสียเงิน ทำมันเองทุกอย่าง สุดท้ายก็ทำได้ แต่ผลงานไม่ดีนัก แถมเวลายังหายไปอีกมากมาย

ยกตัวอย่างนะครับ อย่างผมเขียนหนังสือ ผมรู้ว่าความถนัดความชอบของผมอยู่ที่การเขียน แต่การออกแบบ Graphic หนังสือนี่ ไม่ได้เรื่องเลย คราวนี้ ถ้าผมจะขี้เหนียว ประหยัดเงิน ผมก็ต้องมานั่งออกแบบเอง ซึ่ง นอกจากใช้เวลานานแล้ว ผมเชื่อว่า ผลงานคงไม่ได้เรื่องอีก ใช่ ผมประหยัดเงินได้ แต่คิดดูดี ๆ นะครับ สิ่งที่หายไปคือเวลาของผม ซึ่งแทนที่จะเอาไปเขียนหนังสือได้อีก 2-3 เล่ม กับต้องมาทำงานที่ตัวเองไม่ถนัด คิดดูดี ๆ จะเห็นว่า ผมทำเงินหายไปมากกว่าที่ประหยัดเงินได้ไม่รู้ตั้งกี่เท่าจริงไหมครับ

เคล็ดลับที่ 4 ทำอะไรพร้อม ๆ กันได้ ทำไปพร้อมกันเลยครับ

จริงครับ ผมเห็นด้วยว่า เวลาเราจะทำอะไร เราควร focus เฉพาะอย่าง มันถึงจะได้ผลดี แต่บางอย่าง มันสามารถทำควบคู๋กันไปได้นี่ครับ ผมยกตัวอย่างนะครับ มีหลายคนอยากทราบว่า ผมหาเวลาอ่านหนังสือได้ยังไง ถึงอ่านได้มากมายขนาดนั้น เคล็ดลับง่าย ๆ คือผมติดหนังสือไปทุกที่ครับ เช่น เวลาผมจำเป็นต้องไปธนาคาร ซึ่งผมรู้แน่ ๆ ว่ามันต้องมีเวลารอ ก็แทนที่จะรอเฉย ๆ ผมก็อ่านหนังสือไปด้วยสิครับ แบบนี้ เราได้งานเพิ่มขึ้น โดยไม่ได้เสียเวลาอะไรไปเลย หรือ แม้กระทั่งตอนขับรถ วัน ๆ หนึ่ง รถติดกี่ชั่วโมงครับ ผมก็อาศัยหนังสือเสียงนี่แหละครับ เปิดฟังมันไปเรื่อย ๆ แป๊บเดียวก็หมดเล่มแล้วครับ

ลองมองหาเวลาที่เราต้องใช้ไปอย่างสูญเปล่า เช่น เวลารอคอย เวลารถติด แล้วหาอะไรทำในช่วงเวลานั้น (ที่ทำแล้วมันไม่เกิดอันตรายนะครับ) แค่นี้เราก็ได้เวลากลับมามากมายแล้วครับ

เคล็ดลับที่ 5 ลงทุนเวลา เพื่อสร้างเวลา

เวลาก็เหมือนกับเงินแหละครับ ถ้าเราเอาแต่ใช้ไปแบบฟุ่มเฟือย สุรุ่ยสุร่าย เวลามันก็หมดไป โดยไร้ประโยชน์ และยิ่งเวลาผ่านไป เราแก่ตัวลง เรี่ยวแรงเราก็น้อยลงไปเรื่อย ๆ เคยทำงานดึก ๆ ได้ เราก็จะทำไม่ไหว แล้วเรานั่นแหละครับ จะลำบาก ดังนั้น ข้อแนะนำของผมก็คือ เราต้องลงทุนใช้เวลาไป เพื่อจะได้เวลากลับมาภายหลังครับ เหมือนกับเราต้องใช้เงินลงทุนไปในสินทรัพย์ที่สร้างรายได้ แล้วพอตอนหลังเราก็ไม่ต้องทำงาน แต่ก็มีรายได้กลับมาตลอดนั่นแหละครับ

อะไรนะ ทำอย่างนั้นได้เหรอ ตอบได้เลยว่าได้ครับ อย่างแรกที่เราต้องลงทุน คือ เวลาที่จะทำให้ร่างกายเราแข็งแรง เช่น เวลาออกกำลังกาย เวลานอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอครับ หลายคนบอกว่า อะไรนะ จะมีเวลาที่ไหนไปออกกำลังกาย ไปนอน งานสุมหัวขนาดนี้ ผมบอกได้เลยว่า ถ้าไม่ออกกำลังกายตอนนี้ ไม่นอนให้เพียงพอตอนนี้ ไม่ช้าก็เร็ว เราจะต้องป่วย ไม่แข็งแรง และตอนนั้น เราจะต้องใช้เวลามหาศาลมารักษาตัวเอง หรือใช้เวลานอนอยู่บนเตียง แต่ถ้าเราออกกำลังกายเป็นประจำ นอนหลับพักผ่อนเพียงพอ เวลาที่ป่วยมันจะน้อยลง หรือแทบจะไม่มีเลย เราก็จะมีเวลาทำงาน โดยรวมแล้วเรามีเวลามากกว่าอีกด้วยซ้ำไป

การลงทุนในเวลาอันถัดมา คือลงทุนหาความรู้เพิ่มเติมครับ เหมือนกัน หลายคนบอก จะไปเรียนอะไรได้ แค่ปัจจุบันก็ทำงานไม่ทันอยู่แล้ว ก็ที่ทำงานไม่ทันก็เป็นเพราะเราไม่ได้เรียนรู้เพิ่มเติมนี่แหละครับ บางทีการลงทุนเรียนรู้เทคนิคต่าง ๆ เพิ่มเติม มันจะช่วยทำให้เราทำงานที่เคยใช้เวลา 1 วัน เสร็จภายใน 1 ชั่วโมงก็ได้นะครับ ดังนั้น การอ่านหนังสือ การเข้าเรียน course ต่าง ๆ ซึ่งถ้าใครขี้เกียจเสียเวลาเดินทาง ก็มีให้เรียน online เยอะแยะ มันช่วยเราได้จริง ๆ ครับ

ผมใช้เคล็ดลับง่าย ๆ 5 ข้อนี้แหละครับ ในการบริหารจัดการเวลา และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ท่านก็จะสามารถนำเอาสิ่งนี้ไปใช้ประโยชน์ได้เช่นกันนะครับ

อ่านบทความอื่น ๆ ได้ที่ www.NopadolStory.com หรือเข้าร่วมกลุ่ม Line@ ได้ที่ https://line.me/R/ti/p/%40nopadolrompho

Recommended Posts

No comment yet, add your voice below!


Add a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *