มีใครเคยได้ยินกฎ 10,000 ชั่วโมงกันบ้างครับ กฎนี้นักเขียนชื่อดังคือ Malcolm Gladwell เขียนไว้ในหนังสือ Outliers ไว้ว่า คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่จะทำสิ่งนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในระยะเวลาประมาณ 10,000 ชั่วโมง สุดท้ายเขาก็จะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในสิ่งนั้น
แล้ว 10,000 ชั่วโมงนานขนาดไหน ก็ต้องบอกว่าเราฝึกฝนสิ่งนั้นวันละกี่ชั่วโมง สมมุติว่าทำวันละ 1 ชั่วโมง ก็ใช้เวลา 10,000 วัน (27.4 ปี) แต่ถ้าฝึกวันละ 2 ชั่วโมง ก็ใช้เวลา 5,000 วัน (13.7 ปี) หรือ ถ้าเราอยากเก่งสุด ๆ ในเรื่องนั้นภายใน 10 ปี เราก็ต้องใช้เวลาฝึกเรื่องนั้นทุกวันวันละประมาณ 2.7 ชั่วโมง
ฟังดูแล้วก็น่าเชื่อถือนะครับ เช่น เราซ้อมทำอะไรวันละประมาณ 3 ชั่วโมงทุกวัน ติดกัน 10 ปี เราก็น่าจะเก่งสุด ๆ ในเรื่องนั้น ก็มีเหตุมีผลดี
แต่อยากชวนคิดต่อครับ เราลองคิดดูว่าใน 10 ปีที่ผ่านมา มีอะไรบ้างที่เราใช้เวลาทำวันละ 3 ชั่วโมงทุกวัน แล้วเราเก่งเรื่องนั้นสุด ๆ เลยไหม
เอาตัวอย่างผมก็ได้ครับ ผมเริ่มวิ่งมาได้ 10 ปีแล้ว ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ได้ใช้เวลาวิ่งวันละ 3 ชั่วโมง แต่เชื่อไหมครับ ผมยังห่างไกลจากคำว่า “วิ่งเก่ง” มากมายนัก ใช่ครับ วิ่งเร็วขึ้น นานขึ้น แต่ไม่ได้เก่งอะไรมากมายเมื่อเทียบกับที่ผมวิ่ง 10 ปีก่อน
ผมสอนหนังสือมา 20 ปีแล้วครับ ถ้านับเป็นชั่วโมงผมว่าทะลุ 10,000 ชั่วโมงแน่ ๆ ถามว่าสอนดีขึ้นกว่าตอนสอนครั้งแรกไหมแน่นอนครับ ได้รับรางวัลเรื่องเกี่ยวกับการสอนมากมาย แต่ผมเป็นคนสอนที่ดีระดับโลกขนาดนั้นเลยไหม คำตอบก็คือยังครับ
แล้วสรุปแล้วว่ากฎ 10,000 ชั่วโมงเป็นเรื่องจริงหรือมันเป็นแค่เรื่องพูดต่อกันไปเอง
ผมอ่านหนังสืออีกเล่มหนึ่งชื่อว่า Grit เขียนโดยอาจารย์ Angela Dougworth จากมหาวิทยาลัย Pennsylvania อาจารย์เขียนเรื่องนี้พอดีเลยครับ อาจารย์บอกว่า กฎ 10,000 ชั่วโมงนั้นเป็นเรื่องจริงครับ เพียงแต่ว่า การฝึกฝนทุกวันนั้น มันต้องเป็นการฝึกฝนอย่างตั้งใจ อย่างมีจุดหมายชัดเจนว่า วันนี้เป้าหมายในการฝึกฝนนั้นคืออะไร สิ่งใดที่เราทำได้ดี สิ่งใดที่เราควรพิจารณา
ถ้าเราทำได้แบบนี้วันละ 3 ชั่วโมง ติดกัน 10 ปี แบบนี้เราจะสุดยอดในเรื่องนั้นได้จริง ๆ
กลับมาที่ตัวอย่างของผม ใช่ครับ ผมวิ่งมาได้สัก 10 ปีแล้ว แต่เป็นการวิ่งไป ฟังเพลงไปบ้าง วิ่งบนลู่ดู Netflix บ้าง ผมไม่ได้วิ่งแล้วมานั่งพิจารณาจุดอ่อนจุดแข็ง ท่าวิ่ง หรือมีเป้าหมายอะไรใด ๆ เลยทั้งสิ้น คือวิ่งเพื่อการออกกำลังกายและความเพลิดเพลินล้วน ๆ
จึงไม่แปลกหรอกครับที่ถึงแม้ว่าผมจะวิ่งได้ดีขึ้น แต่ไม่ได้แปลว่าผมวิ่งได้เร็วขึ้น ได้เก่งขึ้นมากมาย จนกลายเป็นนักวิ่งที่สุดยอด
การสอนก็เช่นกัน อันนี้อาจจะดีกว่าวิ่งหน่อย เพราะทุกเทอมที่สอน ผมได้อ่านข้อคิดเห็นของนักศึกษา ผมนำเอาข้อคิดเห็นนั้นมาปรับปรุง จึงทำให้ผมสอนได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ได้รับรางวัลการสอนจากคณะ และจากมหาวิทยาลัยบ่อยครั้ง แต่ถ้าผมมีการฝึกฝนแบบตั้งใจมากกว่านี้ เช่น ทุกคาบที่ผมสอนเสร็จ ผมกลับมาวิเคราะห์ตัวเองทันทีว่ามีจุดไหนที่ผมทำได้ดี จุดไหนที่ทำได้ไม่ดี เพื่อนำไปพัฒนาการสอนต่อไป ถ้าทำได้แบบนี้ทุกวัน ผมก็คงกลายเป็นผู้สอนระดับสุดยอดมากขึ้นไปอีก
ดังนั้น การทำเยอะ ทำบ่อย อย่างเดียว ถึงแม้จะมีส่วนช่วย แต่มันยังไม่พอครับ เราต้องทำอย่างตั้งใจ ทำโดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนาในเรื่องนั้น ๆ ด้วย ถ้าทำแบบนี้รับรองได้ว่า ยิ่งทำ ยิ่งเก่งขึ้นแน่นอนครับ
ติดตามผลงานอื่น ๆ ได้ทาง Page Nopadol’s Story หรือ Nopadol’s Story Podcast ใน Podbean Soundcloud Apple Podcast Spotify YouTube หรือ Blockdit
No comment yet, add your voice below!