หลายคนน่าจะชอบดูกีฬาเหมือนกับผมนะครับ ผมดูมันทุกประเภท
ดังนั้นเมื่อมีมหกรรมกีฬาเกิดขึ้นเมื่อใด มันจะเป็นช่วงเวลาที่พิเศษสำหรับผมเลย ไล่ไปตั้งแต่ฟุตบอลโลก ฟุตบอลยุโรป กีฬาโอลิมปิก เอเชียนเกมส์ และก็ที่ใกล้ตัวเรามากที่สุดคือ … ซีเกมส์
ผมยังจำได้ตอนเด็ก ๆ เวลาดูซีเกมส์ มันสนุกมาก มันคู่คี่สูสี และส่วนใหญ่สู้กันด้วยฝีมือ ทุกวันเราจะลุ้นว่าเราจะชนะไหม เราจะได้เหรียญทองไหม
แต่พอมาระยะหลัง ๆ นี่ ผมรู้สึกว่ามนต์ขลังมันลดลง ไม่ใช่ว่านักกีฬาเก่งน้อยลงนะครับ ผมว่าโดยรวมเก่งขึ้นด้วยซ้ำ แต่ที่มันน่าเบื่อมาก ก็เพราะเราเริ่มเห็นการตัดสินที่มันไม่เป็นธรรมมากขึ้น และมีความพยายามเป็นอย่างมากที่เจ้าภาพจะพยายามที่จะได้เป็น “เจ้าเหรียญทอง”
จนมันเกือบกลายเป็นประเพณีไปแล้วว่า ใครเป็นเจ้าภาพ ประเทศนั้นต้องได้เป็นเจ้าเหรียญทอง
คือ จริง ๆ แล้ว เจ้าภาพก็มีความได้เปรียบเรื่องเสียงเชียร์อยู่แล้วครับ แต่ส่วนใหญ่มักจะไม่พอ เขาจึงพยายามที่จะสร้างความได้เปรียบมากกว่านั้น ยกตัวอย่างเช่น ตัดกีฬาที่ตัวเองไม่มีทางได้เหรียญทองออก แกล้งชาติอื่น ๆ เรื่องการเดินทาง ที่พัก จัดตารางแข่งให้ตัวเองได้เปรียบ ใส่กีฬาที่เกิดมาก็เพิ่งเคยได้ยินชื่อ ที่มั่นใจว่าตัวเองได้เหรียญทองแน่ ๆ ใส่เข้ามา และก็ให้ชิงกันเป็นสิบ ๆ เหรียญทอง หรือที่เลวร้ายที่สุดคือ การที่ให้กรรมการตัดสินลำเอียงแบบค้านสายตาสุด ๆ
อันนี้ไม่ได้ว่าชาติใด ชาติหนึ่ง โดยเฉพาะนะครับ บอกตรง ๆ ว่า ผมเห็นเป็นกันทุกชาติเลยแหละ ไม่ใช่ว่า เวลาเราไปเล่นที่ชาติอื่นแล้วแพ้เลยบ่น ต่อให้เล่นในประเทศเรา แล้วเราทำแบบนี้ ผมก็บ่นเหมือนกัน
กีฬาที่บ้าเหรียญทองจนเกินเลยแบบนี้ ต่อไปใครจะดูครับ และถามจริง ๆ ถึงแม้ว่าชาติเจ้าภาพจะได้เหรียญทองมากมาย เราจะภูมิใจกับการเป็นเจ้าเหรียญทองแบบนี้เหรอครับ (เอ หรืออาจจะมีแบบ ว่าได้ ว่าไป ข้าไม่สน 555)
ผมไม่ได้บ่นเฉย ๆ ครับ มาพร้อมข้อเสนอด้วยครับ
ข้อที่ 1 ผมเสนอให้นักข่าวทุกชาติ รวมตัวกันทำตารางเหรียญทองแยกระหว่างกีฬาสากลที่มีการแข่งขันกันระดับโอลิมปิกหรืออย่างน้อยก็เอเชียนเกมส์ กับ กีฬาท้องถิ่น แยกมันออกจากกันเลยครับ ทำแบบนี้มันจะได้เห็นชัด ๆ ว่าใครเป็นเจ้าเหรียญทองกีฬาสากล ใครเป็นเจ้าเหรียญทองกีฬาท้องถิ่น ไม่ต้องมารวมเหรียญทองกัน แบบนี้เจ้าภาพน่าจะอายบ้างไม่มากก็น้อย ที่ตารางมันออกมาว่า เจ้าภาพได้เหรียญทองกีฬาสากล 20 เหรียญ มาอันดับ 4 กีฬาท้องถิ่น 80 เหรียญ นำโด่งกีฬาท้องถิ่นเลย
อ้อ มีเกร็ดมาเล่าให้ฟังด้วยนะครับ วันก่อนฟังวิทยุ เขาก็ทำตารางซีเกมส์ เฉพาะกีฬาที่อยู่ในโอลิมปิกมาเล่าให้ฟัง ปรากฏว่าทีมชาติไทยของเรา ขึ้นอันดับ 1 ในหลาย ๆ ครั้ง ทั้ง ๆ ที่เหรียญรวมในบางครั้ง เราก็ไม่ได้ที่ 1 นะครับ ก็เป็นที่น่าดีใจว่า เรายังรักษาระดับตรงนี้ไว้ได้
ข้อที่ 2 ผมเสนอให้ทุกชาติ Vote กันก่อนครับว่า คราวต่อไปจะต้องจัดกีฬาอะไรบ้าง โดยกีฬาที่มีอยู่ในโอลิมปิกหรือเอเชียนเกมส์ทุกประเภท จะต้องจัด แล้วค่อยให้แต่ละชาติเสนอตัวว่า ใครจะเป็นเจ้าภาพ โดยคนที่จะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ ต้องยอมรับก่อนว่า เขาต้องพร้อมจัดกีฬาเหล่านี้ ไม่งั้นก็ไม่ qualify แต่อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจว่า จริง ๆ แล้ว คนอยากจะจัดกันหรือเปล่านะครับ ตอนนี้มี assumption ว่าคนอยากจะจัดการแข่งขันนะครับ ถ้าทำแบบนี้ เจ้าภาพจะเลือกเฉพาะกีฬาที่ตัวเองมีความหวัง ก็จะหมดลง ส่วนสำหรับชาติเล็ก ๆ ที่ไม่มีกำลังจัดกีฬาทั้งหมด ผมเสนอให้เป็นเจ้าภาพร่วมกัน เหมือนญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้ ร่วมกันเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกแบบนั้นก็ได้ครับ
ข้อที่ 3 สำหรับตารางการแข่งขัน ผมอยากเสนอให้ตั้งกรรมการที่มีทุกชาติในกีฬานั้น ๆ มา ตกลงเรื่องตาราง ไม่ใช่ให้เจ้าภาพกำหนดเอง และเมื่อกำหนดแล้ว จะห้ามเปลี่ยนแปลงเด็ดขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งนัดที่เจ้าภาพลงแข่ง ถ้าเปลี่ยนแปลงจะปรับให้เจ้าภาพแพ้ทันที ลองนึกถึงบอลโลกสิครับ สมมุติว่า เขาจะมาแข่งที่สนามราชมังคลาบ้านเรา มาถึงแล้ว เราบอกไม่พร้อมนะ ย้ายไปสนามเมืองทองเถอะ เขาไม่ย้ายนะครับ เขาปรับเราแพ้เลย ถือว่าการจัดการไม่พร้อม
เอาแค่ 3 ข้อนี้ ผมว่าจะช่วยลดปัญหาไปได้เยอะ กีฬาจะกลับมาน่าสนุก น่าดูมากขึ้น เอาจริง ๆ นะครับ เหรียญทองน่ะไม่ใช่สิ่งสูงสุดที่ควรจะมุ่งหวังในการแข่งขันกีฬานะครับ ผมว่าสปิริตสำคัญกว่ากันเยอะ
แต่อย่างว่าแหละครับ บางคนอาจจะบอกว่า งั้นต่อไป ไม่มีใครจัดแล้ว เพราะจัดไปก็ไม่ได้เป็นเจ้าเหรียญทอง ถ้าคิดกันอย่างนั้น ผมก็ว่าดีแล้วล่ะครับ เลิกไปซะเถอะ ถ้าเราจะหวังกันเพียงแค่นี้ เสนอให้ซื้อเหรียญทองแจกกันไปเลยครับ เร็วกว่าเยอะ แถมไม่เปลืองงบประมาณด้วย จริงไหมครับ
อ่านบทความอื่น ๆ ได้ที่ www.NopadolStory.com
No comment yet, add your voice below!