มาผัดวันประกันพรุ่งกันเถอะ

ก่อนอื่นกันไว้ก่อนเลยครับ เพราะคำนี้เป็นคำที่หลายคนต้องคิดว่าผมเขียนผิด “ผัดวันประกันพรุ่ง” เขียนแบบนี้ถูกแล้วนะครับ (ไม่เชื่อ Google ดูได้ครับ 555)

งั้นมาเข้าเรื่องกันเลย ผมเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินว่า การผัดวันประกันพรุ่งมันทำให้เราไม่ประสบผลสำเร็จ เพราะมันจะทำให้เราไม่ทำอะไรที่ควรทำสักที แต่ผมเชื่อว่าเกือบทุกอย่าง มันมีทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดีควบคู่กันไป

ผัดวันประกันพรุ่งก็เช่นกันครับ ก็การผัดวันประกันพรุ่งมันจะทำให้เราไม่ได้ทำอะไรที่ควรทำใช่ไหมครับ งั้นถ้าเราเอามาใช้กับสิ่งที่เราไม่ควรทำล่ะ

ชักจะงงละ อะไรกันเนี่ย คืองี้ครับ อย่างเช่นเราจะลดความอ้วน สิ่งที่เราไม่ควรทำคือการกินข้าวเย็นเยอะ ๆ คราวนี้ เราลองงัดนิสัยผัดวันประกันพรุ่งมาใช้ดูสิครับ เช่น วันนี้เราจะกินข้าวเย็นจานใหญ่ ให้ลองคิดว่า เอาไว้พรุ่งนี้ดีกว่า จะกินให้เยอะเลย แต่พอถึงพรุ่งนี้ ลองผัดไปอีกวัน พรุ่งนี้จะสั่งมากินให้หนำใจเลย ถ้าเราผัดไปได้เรื่อย ๆ แบบนี้ รู้ตัวอีกทีก็อาจจะผอมแล้ว

หรือ เราไม่อยากจะดูทีวีนาน ๆ พอจะเอา Remote มากดดูทีวี ก็ลองคิดว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้เราค่อยดูดีกว่า พรุ่งนี้จะดูให้เต็มที่เลย แต่พอถึงพรุ่งนี้ก็ใช้นิสัยผัดวันประกันพรุ่งแบบเดียวกัน ลองเอา Trick นี้ไปใช้ดูสิครับ หลาย ๆ ครั้งมันใช้ได้ดีทีเดียว

แต่ทราบไหมครับ วิธีนี้ work ที่สุดตอนเอามาใช้กับอะไร สำหรับผม คือการซื้อของครับ อย่าง 2 ตัวอย่างแรกเนี่ย บางทีก็พอได้ แต่บางทีมันก็พ่ายแพ้ เพราะเราอยู่ใกล้อาหาร หรือ อยู่ใกล้ทีวี บางทีพยายามผัดวันประกันพรุ่งแล้ว ก็อาจจะไม่รอด

แต่การซื้อของนี่ส่วนใหญ่ เรามักจะทำได้ไม่ง่ายนัก (ยกเว้นพวก Online นะครับ อันนั้นน่ากลัวมาก) เช่น สมมุติเราไปเดินห้าง เจอเสื้อตัวหนึ่งสะดุดตา สวยมาก อยากซื้อขึ้นมาทันที แต่ถ้าเราอยากจะเก็บเงิน ให้เราลองงัดเอานิสัยผัดวันประกันพรุ่งมาใช้เลยครับ ให้คิดว่าเอาไว้ก่อน เดี๋ยวคราวหน้าค่อยมาซื้อ ผมรับรองเลยครับว่า กลับบ้านไป ส่วนใหญ่ (เน้นว่าส่วนใหญ่นะครับ) มักจะลืมความอยากนั้นไปแล้ว และสุดท้ายเราก็ไม่ได้ซื้อและเก็บเงินไว้ได้

แต่ถ้าเรายังอยากอยู่และกลับมาซื้อจนได้ แบบนั้นมันก็พิสูจน์ว่า เราอยากได้จริง ๆ ไม่ได้อยากได้แบบเจอแรงกระตุ้นทางการตลาดต่าง ๆ หรือถ้าไม่แน่ใจ ลองตั้งกฎแบบนี้ดูก็ได้ครับ อยากซื้ออะไร อย่าซื้อเลย ให้กลับมารอบที่ 3 ก่อนอะไรแบบนี้ ถ้ากลับมาถึง 3 ครั้ง แสดงว่าเราคงอยากได้จริง ๆ นั่นแหละ แต่ส่วนใหญ่บอกได้เลยว่า กลับบ้านก็ลืมแล้ว

วิธีนี้ใช้ได้ผลมาก พวกพนักงานขายเขาถึงรู้ไงครับว่า ถ้าเขาปล่อยให้เราออกไปจากร้านแล้ว โอกาสที่จะกลับมาซื้อจะน้อยมาก เขาถึงต้องใช้สารพัดวิธีที่จะให้เราซื้อตอนนั้นให้ได้ เช่น คำพูดทำนองว่า พี่ รุ่นนี้เหลือตัวเดียวนะ พี่กลับมาก็หมดแล้ว (จริง ๆ เหลือในโกดังอีกเพียบ) น้อง ตอนนี้รุ่นนี้กำลังลดนะ กลับมาต้องซื้อราคาเต็มนะ (จริง ๆ อาจจะลดมากกว่านี้ก็ได้) หรือจะเป็นการลดแลกแจกแถมต่าง ๆ จนในที่สุดเราก็หลงกลจนได้

ลองนำเอาไปใช้กันดูนะครับ ผัดวันประกันพรุ่งไม่ได้มีแต่ข้อเสียทั้งหมดครับ ถ้าเลือกนำมาใช้ดี ๆ มันช่วยเราได้เหมือนกันครับ

อ่านบทความอื่น ๆ ได้ที่ www.NopadolStory.com หรือเข้าร่วมกลุ่ม Line@ ได้ที่ https://line.me/R/ti/p/%40nopadolrompho