ถ้าเราไม่ฟังเราจะไม่ได้ปรับปรุง

ในฐานะที่ผมเป็นอาจารย์ สิ่งหนึ่งที่จะว่าเป็นข้อดีก็ได้ หรือจะเป็นข้อเสียก็ได้ ก็คือโอกาสในการได้รับฟังข้อคิดเห็นในการทำงานของเรานี่แหละ

ที่บอกว่าเป็นข้อดีคือการเป็นอาจารย์นี่เรามีโอกาสได้รับฟังข้อคิดเห็นจากคนอื่น ๆ ค่อนข้างมากและบ่อยด้วยนะครับ เช่น เวลาเราสอน ในทุกเทอมปลายภาค นักศึกษาที่เรียนกับเราเขาก็จะประเมินเราว่าเราสอนได้ดีมากน้อยแค่ไหน ไม่ใช่ให้แค่คะแนนด้วยนะครับ หลายคนเขียนข้อคิดเห็นมาด้วย

ซึ่งข้อคิดเห็นเหล่านี้แหละครับที่มีโอกาสทำให้เราได้ปรับปรุง ผมจำได้ว่าผมเป็นอาจารย์ใหม่ ๆ ผมมารู้ว่าผมสอนเร็วก็เพราะนักศึกษาประเมินนี่แหละครับ ยังจำได้ว่า เขาบอกว่าชอบเรียนกับอาจารย์นะ แต่อาจารย์พูดช้าลงกว่านี้จะดีมากเลย ซึ่งถ้าเราฟังข้อคิดเห็นเหล่านี้ เราก็จะปรับตัวเองได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ

การที่ผมได้รับรางวัลเกี่ยวกับการสอนมากมายก็เพราะข้อคิดเห็นเหล่านี้แหละครับ เพราะหากปราศจากข้อคิดเห็นเหล่านี้ เราก็คงสอนแบบเดิม ๆ ที่เราคิดว่าดีแล้ว

หรือจะเป็นเรื่องวิจัย ทุกครั้งที่ผมส่งบทความวิจัยไปยังวารสารวิชาการ ก็จะมีคนอ่านประเมินบทความผม และจะกลับมาด้วยข้อคิดเห็น ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ ถึงแม้ว่าหลาย ๆ ครั้ง เขาจะปฏิเสธการตีพิมพ์ แต่ถ้าเราอารมณ์ความรู้สึกโกรธหรือผิดหวังออกไป เราจะเห็นได้ว่า หลายครั้งสิ่งที่เขาได้ให้ข้อคิดเห็นมาว่างานวิจัยเรายังไม่ดีก็เป็นความจริง และจะทำให้ฝีมือการทำวิจัยเราดีขึ้นเรื่อย ๆ

แต่ในทางกลับกัน ที่ผมว่าเป็นข้อเสียคือ หลายคนอาจจะรับไม่ได้กับข้อคิดเห็นเหล่านี้ และอาจจะเริ่มพยายามปกป้องตัวเองด้วยพฤติกรรมต่าง ๆ เช่น การโต้แย้ง การโยนความผิด

เช่นหากนักศึกษาบอกว่าอาจารย์สอนเร็วไป ถ้าเรามีอีโก้สูง เราก็จะบอกว่านักศึกษานั่นแหละไม่ตั้งใจเรียน เราไม่ได้สอนเร็วสักหน่อย มีหลายคนก็ได้ A จากวิชานี้ หรือถ้ากรรมการผ่านผลงานวิจัยเราบอกว่าผลงานเราคุณภาพไม่ดี เราอาจจะโต้กลับไปว่า กรรมการเหล่านี้คุณภาพไม่ดี ไม่ได้รู้เรื่องเลย

ใช่ครับ บางครั้งสิ่งที่เราพูดก็มีส่วนจริงอยู่บ้าง อาจจะมีนักศึกษาที่ไม่ตั้งใจเรียน หรือกรรมการไม่มีความรู้อยู่ แต่การไปเหมารวมว่าทุกคนต้องเป็นแบบนี้แน่ ๆ เราดีที่สุด แบบนั้นแหละครับที่จะทำให้เราหยุดพัฒนา

ผมมักจะเตือนตัวเองและบอกคนอื่น ๆ อยู่เสมอว่า เมื่อไรก็ตามที่เรารู้สึกว่าเราเก่งที่สุดแล้ว เมื่อนั้นคือขาลงของเราแล้ว ทำไมจึงบอกเช่นนั้น เพราะถ้าเราคิดว่าเราเก่งที่สุด เราจะไม่ฟังใคร และเมื่อเราไม่ฟังใคร โอกาสที่เราจะพัฒนาไปข้างหน้าก็แทบจะไม่มีอีกแล้ว และนั่นคือจุดเริ่มต้นของขาลงเรานั่นแหละครับ

รับฟังไม่ได้แปลว่าเราต้องเชื่อทุกอย่างที่เขาให้ข้อคิดเห็นมา ขอแค่เปิดใจให้กว้างเข้าไว้ อะไรที่ใช่เอาไปปรับปรุง อะไรที่ไม่ใช่ก็วางไว้ตรงนั้น แต่ถ้าเราไม่ฟังใครเลย เราก็จะไม่ได้ปรับปรุงตัวเราเลยนะครับ

ติดตามผลงานอื่น ๆ ได้ทาง Page Nopadol’s Story หรือ Nopadol’s Story Podcast ใน Podbean Soundcloud Apple Podcast Spotify YouTube หรือ Blockdit

Recommended Posts

No comment yet, add your voice below!


Add a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *