1. มีเรื่องราวที่โดดเด่นแตกต่าง
คนชอบอ่านอะไรที่หาอ่านที่อื่นได้ยาก ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ พยายามหามุมที่แตกต่างจากหนังสือเรื่องอื่น หรือมีเรื่องเล่าที่ไม่ซ้ำใคร แบบนี้คนจะอยากอ่านมากกว่าหนังสือที่เขียนเหมือน ๆ กันกับเล่มอื่น ๆ ที่วางขายอยู่ทั่วไป
2. มีทักษะในการเขียน
พยายามเรียนรู้ทักษะในการเขียนด้วยการเข้าคอร์สเรียน หรือฝึกเขียนบ่อย ๆ ฝึกใช้คำต่าง ๆ เลือกใช้ในจังหวะที่เหมาะสม ยิ่งเราเขียนได้เก่ง ได้ดี เท่าไร คนอ่านก็จะยิ่งชอบอ่านมากขึ้นเท่านั้น
3. ทำวิจัยตลาด
อยากเขียนหนังสือให้คนชอบอ่าน ก็ต้องรู้ก่อนว่ากลุ่มเป้าหมายเราชอบอ่านอะไร การทำวิจัยตลาดที่ว่าไม่ได้หมายความถึงขนาดต้องไปจ้างบริษัทวิจัยมาทำวิจัยอะไรขนาดนั้น แค่เราไปอยู่ในกลุ่มที่กลุ่มเป้าหมายเขาอยู่รวม ๆ กัน เราก็จะพอเห็นแล้วว่าปัญหาของเขาคืออะไร และพยายามเขียนอะไรที่ช่วยตอบปัญหาเหล่านั้นได้ แค่นี้คนก็ชอบอ่านหนังสือเราแล้ว
4. หาคนอ่านงานเขียนเราก่อนตีพิมพ์
หนังสือที่เราเขียนควรผ่านตาของคนที่เรียกกันว่าบรรณาธิการ คนนี้จะเป็นคนช่วยอ่านงานเรา และขัดเกลางานเราให้ดียิ่งขึ้น หลายครั้งเราคิดว่าสิ่งที่เราเขียนนั้นครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว แต่นั่นคือมุมมองของเราเพียงคนเดียว บรรณาธิการที่มีประสบการณ์เขาจะทราบว่าตรงไหนควรเพิ่ม ตรงไหนควรลด เพื่อทำให้หนังสือเราน่าสนใจมากขึ้น
5. วางแผนการตลาด
หนังสือดีก็เรื่องหนึ่ง อีกเรื่องหนึ่งที่ควรต้องทำคือทำการวางแผนการตลาดเพื่อทำให้กลุ่มเป้าหมายเราได้ทราบว่ามีหนังสือดี ๆ เล่มนี้อยู่ พยายามศึกษาการโปรโมทหนังสือผ่านช่องทางต่าง ๆ ทั้งโซเชียล มีเดีย หรืออีเวนท์ต่าง ๆ เพื่อให้หนังสือเราออกสู่สายตาสาธารณชนให้ได้มากที่สุด
6. อดทน
การเขียนหนังสือให้ขายดี มันอาจจะต้องใช้เวลาพอสมควร อดทนฝึกฝนฝีมือในการเขียน การโปรโมทหนังสือ และบางทีเล่มแรกอาจจะยังทำไม่สำเร็จ เราก็ยังมีโอกาสทำเล่มที่สอง เล่มที่สาม เล่มที่สี่ไปเรื่อย ๆ พยายามเรียนรู้และปรับปรุง ในที่สุดหนังสือของเราก็จะติดเบสต์เซลเลอร์จนได้
ติดตามผลงานอื่น ๆ ได้ทาง Page Nopadol’s Story หรือ Nopadol’s Story Podcast ใน Podbean Soundcloud Apple Podcast Spotify YouTube หรือ Blockdit
No comment yet, add your voice below!