ถ้าเราสามารถเลือกทำงานกับหัวหน้าได้ เราจะเลือกหัวหน้าแบบไหนระหว่างคนที่สั่งงานอย่างเดียว พอเราทำได้ กลับเอาความดีความชอบไปทั้งหมดไม่เคยให้เครดิตใด ๆ กับเรา แต่พอเราทำไม่ได้ก็มีแต่ด่าว่าเรา หรือหัวหน้าที่ยอมเสียสละ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเวลาที่มาสอนเรา ทำให้เราดีขึ้น เก่งขึ้น ผลงานที่ทำได้ดี ก็ให้เครดิตกับเรา ทำได้ไม่ดีก็ยังมาช่วยเราหาหนทางที่จะปรับปรุงพัฒนาให้ดีขึ้น
คงเป็นคำถามที่ไม่ต้องมีคำตอบเพราะทุกคนย่อมเลือกคนหลังมากกว่าคนแรกอยู่แล้ว แต่ถึงแม้ว่าคำถามนี้จะดูชัดเจน แต่เชื่อไหมครับว่า มีหัวหน้าหลายคนกลับทำเหมือนกับคนแรก เพียงเพราะว่าเขาอยากเอาหน้า อยากจะได้ความสำเร็จเร็ว ๆ
ทักษะที่สำคัญอย่างหนึ่งของคนที่เป็นหัวหน้าคือความเสียสละนี่แหละครับ เราจะไม่มีวันได้ใจลูกน้องเราได้เลย ถ้าเราเป็นคนเห็นแก่ตัว เอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้คนอื่น ใช่ครับ ระยะสั้น ผู้บริหารระดับสูงอาจจะยังไม่รู้ คนที่ทำอย่างนี้อาจจะดูเหมือนว่าได้ความดีความชอบไปคนเดียว ดูเหมือนจะเจริญก้าวหน้า แต่เชื่อเถอะครับว่า หัวหน้าแบบนี้ระยะยาวน่าจะเติบโตได้ลำบาก เพราะไม่มีลูกน้องคนไหนที่อยากจะทำงานให้คนในลักษณะนี้
บางคนอาจจะเห็นแย้งว่า ไม่เห็นจริงเลย ที่ทำงานมีคนได้ดิบได้ดีด้วยวิธีนี้เยอะแยะ ความเห็นของผมนะครับ ถ้าองค์กรไหนยอมให้คนในลักษณะนี้เติบโตขึ้นไปได้ ก็แสดงว่าวัฒนธรรมองค์กรนั้นแย่มาก ๆ และถึงแม้ว่าจะดูเหมือนว่าองค์กรนั้นอาจจะประสบความสำเร็จในระยะสั้น แต่ผมก็เชื่อว่าระยะยาวแล้ว องค์กรที่เต็มไปด้วยคนเห็นแก่ตัว เก่งแย่งชิงดีชิงเด่นแบบนี้เต็มไปหมด ไม่น่าจะเป็นองค์กรที่ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนได้เลย
นอกจากเรื่องเสียสละแล้ว ผู้นำที่ดีควรมีความอดทนสูงกว่าคนอื่น บางคนอาจจะเสียสละเวลามาสอนลูกน้อง แต่พอลูกน้องทำไม่ได้ ก็โกรธ เพราะคิดว่าอุตส่าห์สอนให้ตั้งเยอะแยะ ทำไมไม่รู้จักจำบ้าง ตรงนี้แหละครับที่ทักษะเรื่องการฝึกความอดทนจะเข้ามาช่วย
ไม่มีลูกน้องคนไหนหรอกครับที่อยากทำงานให้มันได้ผลไม่ดี ตัวหัวหน้าเองก็เหอะ ตอนแรก ๆ ก็ใช่ว่าจะทำได้ทันทีซะที่ไหน แต่พอเรามีประสบการณ์เยอะ เราจึงคิดว่าเรื่องต่าง ๆ นี้มันง่าย เราลืมความรู้สึกตอนที่เราทำงานนั้นครั้งแรก ๆ ไปแล้ว เรื่องนี้อาจจะเป็นเยอะหน่อยกับคนที่เก่งมาก ๆ เพราะด้วยประสบการณ์ของเขา เขารู้สึกว่าเรื่องที่ทำนั้นมันง่ายดายเหลือเกิน แต่อย่าลืมนะครับว่า คนแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนเรียนรู้บางเรื่องได้เร็ว บางคนเรียนรู้ได้ช้าหน่อย ดังนั้นความอดทนที่จะรอให้เห็นผลจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ
อดทนที่ว่านี้ไม่ได้หมายความแค่อดทนเรื่องการพัฒนาพนักงานอย่างเดียวนะครับ แต่รวมไปถึงการอดทนในเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับธุรกิจด้วย อะไรที่มันต้องใช้เวลา เราจำเป็นต้องรอ ก็ต้องรู้จักรอ เช่น เราออก Campaign ใหม่ในการโปรโมชั่นสินค้า ไม่ได้แปลว่า มันจะสำเร็จทันที พรุ่งนี้ยอดขายพุ่ง กำไรมาเลย บางทีเราอาจจะต้องรอสักหน่อยกว่าที่ลูกค้าจะรับรู้ รอจนกว่าจะกลายเป็นกระแส และใช่ครับหลาย ๆ ครั้ง การรอนั้นอาจจะสูญเปล่า เพราะลูกค้าอาจจะไม่ชอบก็ได้
ความอดทนจึงรวมไปถึงการสู้ต่อหลังจากล้มเหลว การยอมลองผิดลองถูกหลาย ๆ ครั้งจนกว่าจะประสบความสำเร็จ ความอดทนไม่ได้แปลว่าเราต้องทำซ้ำเดิมไปเรื่อย ๆ แต่หมายถึงการทนต่อความล้มเหลว แต่เรียนรู้ไปพร้อม ๆ กัน
เชื่อเหลือเกินว่าถ้าองค์กรใดมีผู้บริหารและพนักงานที่มีทั้งความเสียสละและความอดทนไปพร้อม ๆ กัน องค์กรนั้นย่อมเจริญรุ่งเรืองแน่นอน
ข้อคิด ผู้นำควรรู้จักเสียสละและมีความอดทนเพื่อที่จะนำพาองค์กรให้ประสบความสำเร็จ
ติดตามผลงานอื่น ๆ ได้ทาง Page Nopadol’s Story หรือ Nopadol’s Story Podcast ใน Podbean Soundcloud Apple Podcast Spotify YouTube หรือ Blockdit
No comment yet, add your voice below!