สารภาพว่าเวลาอ่านหนังสือแนวพัฒนาตัวเองทีไร ก็มักจะเห็นประโยคประมาณนี้เสมอว่า เวลาถึงจุดสิ้นสุดของสิ่งหนึ่ง ก็จะมีสิ่งใหม่ ๆ เกิดขึ้นเสมอ แต่ยังไม่ได้เอามาคิดต่อสักเท่าไร
จนกระทั่งวันหนึ่งขับรถอยู่ดี ๆ ก็คิดขึ้นมาว่า จริง ๆ แล้วสิ่งนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงกับทุกสถานการณ์เลยก็ว่าได้ แต่ที่เรายังไม่เห็น “สิ่งใหม่” ที่เกิดขึ้นนั้น เพียงเพราะว่าสิ่งนั้นมันไม่ได้เกิดขึ้นในทันทีทันใดแค่นั้นเอง
ยกตัวอย่างเช่น สมมุติว่าวันนี้เราถูกให้ออกจากที่ทำงาน นี่คือจุดจบของการทำงานของเรา ใช่ครับ ณ เวลาตอนนั้นเราจะเซ็งกับชีวิตมาก เพราะคงไม่มีใครอยากจะขาดรายได้ อยากถูกให้ออกจากงาน
และถ้าจุดนั้นเราพยายามหาว่า ไหนล่ะสิ่งใหม่ในชีวิต ไม่เห็นมีสักอย่าง จะใหม่ก็มีอย่างเดียวคือแทนที่จะต้องไปทำงาน เราก็ต้องอยู่บ้านเฉย ๆ อันนี้เหรอที่จะบอกว่าเป็นสิ่งใหม่
เอาจริง ๆ ก็ใช่แหละ แต่อันนี้แค่ระยะสั้นครับ ใครจะไปรู้ว่าการที่เราถูกให้ออกจากงานจะทำให้เราได้ไปหางานที่ใหม่ที่อาจจะดีกว่าเดิม อาจจะทำให้เราเริ่มต้นทำธุรกิจแล้วประสบความสำเร็จก็ได้
หลายคนก็อาจจะแย้งว่า บางทีสิ่งใหม่ที่เริ่มต้นมันก็อาจจะแย่กว่าสิ่งเดิมก็ได้นะ เช่น พอโดนให้ออกจากงาน เราก็อาจจะได้งานใหม่ที่แย่กว่าเดิมก็ได้ หรือไปทำธุรกิจแล้วก็ไม่ประสบความสำเร็จต้องล้มเลิกไปก็ได้ ก็ใช่ครับ แต่ว่ามันก็จะกลายเป็นจุดจบใหม่ และมันก็จะเป็นการเริ่มต้นใหม่อีกนั่นแหละ
ผมเชื่อว่าถ้าเราได้เรียนรู้ในทุกครั้งที่มาถึงจุดจบ เราจะเริ่มสร้างโอกาสให้ตัวเองมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มีใครการันตีว่ามันจะสำเร็จภายในกี่ครั้ง แต่เชื่อว่าถ้าเราไม่ล้มเลิก เรายังเดินต่อ พร้อมทั้งเรียนรู้ไปด้วย ในที่สุดเราก็จะไปถึงจุดที่เราสามารถมองย้อนกลับมาว่า ที่เรามาถึงจุดนี้ได้ เป็นเพราะเหตุการณ์ที่ตอนนั้นทำให้เรารู้สึกแย่ รู้สึกล้มเหลวทั้งนั้น
เหมือนสตีฟ จ็อบส์ หนึ่งในนักธุรกิจในตำนาน เขาก็เคยบอกไว้ว่า การที่เขาโดนไล่ออกจากบริษัทแอปเปิ้ลที่เขาก่อตั้งมารอบแรกกลายเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของเขาเลยก็ว่าได้ เขามีเวลาได้ทบทวน และในที่สุดเขาก็กลับมาทำให้แอปเปิ้ลกลายเป็นบริษัทระดับโลก ถ้าตอนนั้นเขาไม่โดนไล่ออกมา ป่านนี้แอปเปิ้ลก็อาจจะกลายเป็นบริษัทธรรมดา ๆ ที่โลกไม่รู้จัก หรืออาจจะเจ๊งไปแล้วจากการขาดประสบการณ์ของเขาในช่วงแรก ๆ ก็ได้
สตีฟ จ็อบส์คนเดิมก็เคยบอกไว้ในสุนทรพจน์ที่ให้ไว้กับบัณฑิตของมหาวิทยาลัยแสตนฟอร์ดในปี 2005 ไว้ว่า เราไม่สามารถต่อจุดไปข้างหน้าได้ เราทำได้แค่การต่อจุดย้อนกลับหลัง เราลองคิดดูสิครับว่า เรามายืนอยู่ ณ จุดปัจจุบันได้อย่างไร ผมเชื่อว่าสำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว มันไม่ได้เป็นไปตามแผนการที่เราคิดไว้ตั้งแต่ตอนเรียนแน่ ๆ
ดังนั้น ขอเป็นกำลังใจให้สำหรับจุดจบในบางเรื่องที่ท่านกำลังเผชิญอยู่ จำไว้ว่าตอนนี้จุดเริ่มต้นของสิ่งใหม่ได้เริ่มขึ้นแล้ว แต่ให้เวลากับชีวิตหน่อย เดี๋ยวเราจะรู้เองแหละครับว่าจุดเริ่มต้นนี้จะพาชีวิตเราไปในทิศทางใด ซึ่งส่วนตัวผมเชื่อว่าจะพาไปสู่สิ่งที่ดีขึ้นเสมอ
มีคำกล่าวคำหนึ่งที่ Fernando Sabino นักเขียนชาวบราซิลได้เขียนไว้ในหนังสือ The checkerboard เป็นภาษาบราซิลในปี 1988 ไว้ว่า
“ทุกอย่างจะลงเอยด้วยดีในตอบจบเสมอ ถ้าตอนนี้มันยังไม่ดี ก็แปลว่ามันยังไม่จบ”
ขอให้ทุกคนมีกำลังใจในการดำเนินชีวิตกันต่อไปนะครับ
ติดตามผลงานอื่น ๆ ได้ทาง Page Nopadol’s Story หรือ Nopadol’s Story Podcast ใน Podbean Soundcloud Apple Podcast Spotify YouTube หรือ Blockdit