เลิกเชื่อคนอื่นหรือตัวเองมากเกินไปได้แล้ว

คือผมว่าคนเราส่วนใหญ่จะมีอยู่ 2 ประเภทคือคนที่ไม่เชื่อตัวเอง แต่เชื่อคนอื่นมากกว่า อีกประเภทหนึ่งคือคนที่เชื่อตัวเองมากกว่าที่จะเชื่อคนอื่น จริง ๆ แล้ว ก็ไม่ได้แปลว่าคนไหนดีกว่าคนไหนหรอกนะครับ ถ้ามันไม่มีคำว่า “มากเกินไป” อยู่ด้วย

มาดูคนประเภทแรก คือคนที่เอาแต่เชื่อคนอื่น แต่ไม่เชื่อตัวเอง คนกลุ่มนี้จะไม่มีความมั่นใจในตัวเองเลย จะตัดสินใจอะไรจะมองหาคนรอบข้างเสมอ พ่อว่าอย่างไร แม่ว่าอย่างไร หรือเพื่อน ๆ ว่าอย่างไร ใครทำอะไรก็ทำตาม ใครบอกอะไรก็เชื่อไปหมด

ข้อเสียของคนกลุ่มนี้ก็คงชัดเจนคือไม่มีความเป็นตัวของตัวเองเลย ทำอะไรก็คงไม่กล้าทำ กลัวโดนว่า โดนวิจารณ์ เริ่มทำอะไรก็ไขว้เขวได้ง่าย พอคนนี้บอกอย่างก็รีบทำตาม แต่พอเจออีกคนบอกอย่างก็รีบกลับลำ ทำอีกแบบหนึ่ง ยิ่งมีหลายความคิดเห็น ยิ่งทำตัวไม่ถูก สุดท้ายลงเอยด้วยการเลิกทำดีกว่า เราคงทำไม่ได้หรอก

มาอีกกลุ่มหนึ่ง กลุ่มนี้เชื่อตัวเองสุด ๆ เรียกว่าไม่มีใครรู้ดีเท่าเรา ไม่มีใครเก่งเท่าเรา ใครจะแนะนำอะไรก็ไม่ฟังทั้งสิ้น พวกนี้ไม่รู้เรื่อง ก็คงเดาได้ว่าข้อเสียคือบางทีเราทำอะไรผิด ๆ ไป แต่ไม่มีใครเตือนเราได้ เพราะเตือนไปเราก็ไม่ฟัง บางทียิ่งเตือน ยิ่งพยายามดันทุรังทำตรงข้าม เพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองนั้นถูก ซึ่งอาจจะนำมาซึ่งความล้มเหลวมากขึ้นไปเรื่อย ๆ

แล้วจะอย่างไรดี เชื่อคนอื่นมากไปก็ไม่ดี เชื่อตัวเองมากไปก็ไม่ดี อย่างนี้ไม่ต้องเชื่อใครเลยหรือ ผมอยากแนะนำว่า เอาคำว่าตัวเองกับคนอื่นออกไปก่อนครับ กลับมาคิดว่า อะไรคือสิ่งที่น่าจะดีที่สุดในเรื่องนั้น ๆ บางครั้ง ถ้าเราเป็นคนมีประสบการณ์มากกว่า มีความสามารถมากกว่าในเรื่องนั้น เราก็เชื่อตัวเรา แต่บางเรื่อง ตัวเราไม่มีประสบการณ์หรือความรู้มากนัก คนอื่นเขามีประสบการณ์และความรู้มากกว่า และมีเจตนาดีกับเรา แบบนี้จะเชื่อคนอื่นก็ได้

คือมันจะขึ้นอยู่กับบริบทเลย เราไม่จำเป็นต้องถูกเสมอ ในขณะเดียวกันเราก็ไม่จำเป็นต้องผิดเสมออีกเหมือนกัน มันขึ้นอยู่กับแต่ละเรื่องครับ ยกตัวอย่างตัวผม ถ้าเป็นเรื่องที่ผมถนัดหรือเชี่ยวชาญ เช่นเรื่องการตั้งเป้าหมายหรือการวัดผล ที่ผมเรียนมาทางนี้ ทำวิจัยเรื่องนี้มาตั้งเยอะ ผมก็อาจจะมีแนวโน้มที่จะเชื่อตัวเองมากกว่าคนที่ยังไม่เข้าใจเรื่องนี้มากพอ แต่ให้ความคิดเห็นเรื่องนี้มา

คือไม่ใช่ว่าไม่ฟังเลยนะครับ ฟังก่อน แต่เอามาชั่งน้ำหนักดูว่า อะไรน่าเชื่อถือกว่ากันระหว่างความคิดของตัวเองกับความคิดของคนอื่น เอาอคติการเข้าข้างตัวเองออกไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ในทางกลับกัน ถ้าเป็นเรื่องที่ผมไม่ถนัดไม่เชี่ยวชาญ เช่นเรื่องการวิ่ง แบบนี้ ผมจะเลือกที่จะเชื่อคำแนะนำของเพื่อนที่วิ่งมานาน ผ่านมาหลายสนามมากกว่าที่จะเชื่อความรู้สึกตัวเองแบบนี้เป็นต้น

ถ้าเราใช้หลักการนี้ เราก็จะไม่ยึดติดว่าเราจะต้องเชื่อตัวเองเท่านั้น หรือ เราจะต้องเชื่อตามที่คนอื่นบอกเท่านั้น ผมว่าเราจะใช้ชีวิตได้สนุกและมีความสุขขึ้นโดยอัตโนมัติเลยครับ

ติดตามผลงานอื่น ๆ ได้ทาง Page Nopadol’s Story หรือ Nopadol’s Story Podcast ใน Podbean Soundcloud Apple Podcast Spotify YouTube หรือ Blockdit

Recommended Posts

No comment yet, add your voice below!


Add a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *