มาทำธุรกิจที่ค่อย ๆ เติบโตกันเถอะ

ถ้าใครอ่านหนังสือผู้ประกอบการส่วนใหญ่มักจะได้รับคำแนะนำในการทำธุรกิจที่มุ่งเน้นการเติบโตและประสบความสำเร็จมาก ๆ ในเวลาที่รวดเร็ว ส่วนตัวก็เคยชอบอ่านหนังสือประมาณนี้นะครับ หนังสือเกี่ยวกับ Startup ส่วนใหญ่ก็มาลักษณะนี้กันเกือบหมด และต้องบอกว่าชื่นชมกับความสำเร็จของหลาย ๆ ท่านนะครับ เก่งมาก ๆ เลย

แต่ถ้าใครอ่านหนังสือประเภทนี้เยอะ ๆ เราก็จะรู้อีกว่า โอกาสที่จะสำเร็จแบบก้าวกระโดด เติบโตเร็ว ๆ และสุดท้ายก็ได้กำไรมาก ๆ แบบนี้มีค่อนข้างน้อย ส่วนใหญ่มักจะไปไม่รอดซะด้วยซ้ำ

คำถามคือถ้าอัตราความสำเร็จมันต่ำขนาดนี้ แล้วทำคนยังสนใจอยากเป็นผู้ประกอบการแนวนี้อยู่ล่ะ คำตอบง่าย ๆ ก็คือว่าก็เวลาสำเร็จมันสำเร็จมาก ๆ เลยไงครับ มันก็น่าสนใจอยู่นะ

แต่ก่อนผมก็สนใจครับ หาหนังสือแนวนี้มาอ่านเยอะแยะ และก็ทดลองทำดูด้วย แต่ก็เหมือนกับคนส่วนใหญ่แหละ ยิ่งไม่ได้จริงจังมาก โอกาสสำเร็จมันก็ยิ่งน้อยไปใหญ่

แต่พอมีอายุมากขึ้น ความสนใจเรื่องการทำธุรกิจก็มีอยู่ แต่แนวทางเปลี่ยนไปเลยครับ ตอนนี้ผมชอบแนวธุรกิจที่ไม่ต้องเติบโตเร็วมาก ไม่ต้องกำไรมหาศาล ค่อย ๆ เติบโต เป็นธุรกิจที่สร้างความสุขให้กับตัวเราและลูกค้าไปพร้อม ๆ กัน

รูปแบบธุรกิจแบบนี้ไม่ต้องมานั่งคิดว่าจะต้องใช้เงินจากนักลงทุนมากมายมาขยายการเติบโตอย่างไร แต่เราจะเริ่มจากแค่กลุ่มคนกลุ่มเล็ก ๆ ที่มีความสนใจแบบเดียวกับเรา แล้วค่อย ๆ สร้างธุรกิจที่ตอบโจทย์คนกลุ่มนี้และค่อย ๆ โตไปด้วยกัน

เอาสิ่งที่ผมชอบก็ได้ครับ เช่น ร้านหนังสือ ถ้าเป็นรูปแบบธุรกิจแบบ Startup เขาก็คงเน้นว่าจะทำอย่างไรให้ธุรกิจโตเร็ว รูปแบบก็คงคล้าย ๆ กับ Amazon ที่ทำเป็น Platform ให้คนซื้อหนังสือมาเจอคนขาย ซึ่งอาจจะเป็นสำนักพิมพ์หรือนักเขียนอิสระต่าง ๆ แล้วก็เก็บค่าธรรมเนียม

โดยถ้าเป็นช่วงเริ่มต้นก็คงต้องใช้เงินจำนวนไม่น้อยจากนักลงทุนเพื่อจูงใจให้คนซื้ออยากมาซื้อ คนขายอยากมาขาย ช่วงนี้แหละที่เรามีความเสี่ยงมาก เพราะถ้าใช้เงินจำนวนมากไปเพื่อสร้างการเติบโตแล้ว เราไม่สำเร็จ นักลงทุนก็อาจจะเลิกให้เงินลงทุนเพิ่ม ก็แปลว่า Startup นี้ก็จะเจ๊งไป

แต่ถ้าเป็นรูปแบบที่ค่อย ๆ เติบโต มันก็เหมือนเราสร้างรายหนังสืออิสระเล็ก ๆ สักร้านหนึ่ง แล้วดึงดูดคนที่รักหนังสือประเภทเดียวกับเราให้เข้ามาในร้าน เราอาจจะไม่ได้ทำเงินอะไรมากมายในตอนแรก แต่ถ้าพอมีคนที่สนใจจำนวนหนึ่ง ร้านเราก็อยู่ได้ ถ้าจะเติบโตก็จะค่อย ๆ เติบโตไป ที่สำคัญคนทำก็ไม่เครียดมาก ไม่มีอะไรต้องเร่งร้อน อยากขายหนังสือประเภทไหน ก็เลือกได้ระดับหนึ่ง ไม่มีแรงกดดันจากคนที่ให้เงินลงทุน เพราะเราอาจจะไม่ต้องการเงินลงทุนอะไรมากมาย ในขณะที่ลูกค้าเราก็มีความสุขในการเข้ามาเดินหาหนังสือที่เขารักในร้านเราอะไรทำนองนี้

แต่ที่เขียนมาทั้งหมด ไม่ได้แปลว่าเราทำแบบเล็ก ๆ แล้วจะการันตีความสำเร็จนะครับ ถ้าศึกษาไม่ดี หรือไม่เอาใจใส่ธุรกิจ มันก็อาจจะล้มเหลวได้ แต่ถึงจะล้มเหลว ถ้าเราเริ่มเล็ก ๆ เราก็จะไม่เจ็บมากอยู่ดี เหมือนเราขับรถแหละครับ การทำ Startup ก็เหมือนกับขับเฟอร์รารี่ ต้องเร่งเครื่องแรงตลอดเวลา ถ้าสำเร็จมันก็ไปไกลมาก แต่มีโอกาสเยอะมากที่มันอาจจะชน ซึ่งถ้าเราขับเร็วขนาดนั้น จนทีก็คงกระจายเลย

แต่ถ้าเป็นรูปแบบค่อย ๆ เติบโต ก็เหมือนรถยนต์ธรรมดาที่เราขับกินลมแหละ คือกว่าจะถึงจุดหมายก็นานหน่อย แต่ความสุขจะอยู่ระหว่างทางมากกว่า แล้วถ้ามันจะชน อย่างมากรถก็อาจจะบุบหน่อย แต่ก็ยังพอขับต่อไปได้อะไรทำนองนี้

คงไม่มีถูกผิดหรอกนะครับ ใครชอบแบบไหนก็ลองเลือกกันได้ตามสบายเลยครับ

ติดตามผลงานอื่น ๆ ได้ทาง Page Nopadol’s Story หรือ Nopadol’s Story Podcast ใน Podbean Soundcloud Apple Podcast Spotify YouTube หรือ Blockdit

Recommended Posts

No comment yet, add your voice below!


Add a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *