เคยได้ยินคำว่า “ยิ่งให้ ยิ่งได้” ไหมครับ จริง ๆ ส่วนตัวผมเชื่อคำนี้นะครับ แต่เวลาสื่อสารมีข้อควรระวังคือ คำว่ายิ่งให้ยิ่งได้ มันดูเหมือนว่าเราตั้งโจทย์ว่าเราอยากได้ก่อน เราจึงให้ ดังนั้นมันยังเป็นการให้ที่มีเงื่อนไขอยู่ว่าเราต้องได้นะ
ถ้าเราคิดแบบนี้ในการให้ ผมว่าเราจะไม่ให้อย่างเต็มที่ เราจะให้แบบมีความโลภอยู่ และในที่สุดการให้นั้นอาจจะไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีนัก ไม่ว่าจะเป็นผู้ให้ หรือ ผู้รับก็ตาม
ลองนึกภาพแบบนี้ครับว่า ถ้าเราเอาขนมไปให้เพื่อนบ้านเรา แล้วเรามานั่งหวังว่าเมื่อไร เขาจะเอาขนมมาให้เราบ้าง แบบนี้การให้ของเรามันอาจจะนำมาซึ่งความทุกข์ ความกระวนกระวายใจ หรือแม้กระทั่งความโกรธ หากผู้รับเขาไม่ได้ทำในสิ่งที่เราคาดหวัง
ต่อมา เมื่อเราไม่ได้ตามที่เราคาดหวังไว้ เราก็อาจจะไปทวงถามเพื่อนบ้านเราว่า นี่เธอ ฉันซื้อขนมมาให้เธอตั้งเยอะ เธอไม่คิดจะซื้อขนมให้ฉันบ้างเหรอ ลองคิดใจของเพื่อนบ้านดูครับ เขาก็คงคิดว่า อ๋อ ที่เอาขนมมาให้เพราะคาดหวังว่าจะได้รับสิ่งตอบแทนนี่เอง
การให้ในครั้งนั้น แทนที่จะเป็นประโยชน์ กลับกลายเป็นโทษด้วยซ้ำ จากคนที่เคยดี ๆ กัน อาจจะทะเลาะกันไปเลยก็ได้
แต่ถ้ากลับกัน เราให้เพราะเราอยากให้ เราอยากแบ่งปัน ส่วนเขาจะตอบแทนหรือไม่ อันนั้นเราไม่ได้คาดหวัง ไม่ได้ตอบแทน เราก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร อย่างแรกที่เราจะได้คือความสบายใจของเรา เราได้เห็นเขายิ้ม เขามีความสุข มันคือสิ่งตอบแทนที่เราได้รับมาแล้วทันทีที่เราให้ จิตใจเราสบาย นั่นก็คือผลลัพธ์ของการให้แล้ว
การให้ในลักษณะนี้จะส่งผลดีกับเราแน่นอน นอกจากในระยะสั้นที่เรามีความสุขกับการให้ที่ไม่ได้คาดหวังสิ่งตอบแทนแล้ว ผมเชื่อว่าในระยะยาวความสัมพันธ์ระหว่างเราซึ่งเป็นผู้ให้ ผู้แบ่งปัน กับผู้รับก็น่าจะดีด้วย และความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้างนี่แหละครับที่จะนำมาซึ่งความสุขของเรา
Professor Adam Grant จากมหาวิทยาลัย Pennsylvania เขียนไว้ในหนังสือว่า คนเรามีอยู่ 3 ประเภท คือ ผู้ให้ (Giver) ผู้รับ (Taker) และ คนที่ทั้งให้และรับ (Matcher) ตอนแรกจะดูเหมือนผู้รับ (Taker) จะเป็นคนที่ได้ผลประโยชน์มากที่สุด เพราะเขาได้แต่สิ่งที่ดี ๆ ไป ผู้ให้ดูเหมือนจะเสียเปรียบ แต่สุดท้ายจะพบว่าผู้ให้ (Giver) นี่แหละที่จะกลายเป็นผู้ประสบความสำเร็จในชีวิต
แต่มีเงื่อนไขอย่างหนึ่ง คือผู้ให้นั้น ต้องไม่ใช่หลับหูหลับตาให้ แบบยอมโดนเอาเปรียบตลอดเวลา อย่างนั้นไม่ใช่ ผุ้ให้สามารถตัดสินใจได้ว่า เขาควรให้อะไร กับใคร ในเวลาใด ในปริมาณที่เท่าไร การให้แบบนี้ถึงจะทำให้ผู้ให้ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่ว่า โดนผู้รับมาบังคับ กดดัน และต้องยอม
ลองรู้จักแบ่งปันและให้ผู้อื่น โดยไม่ได้คำนึงถึงผลตอบแทนดูนะครับ แต่อย่าถึงกับให้ใครเอาเปรียบตลอดเวลา แค่นี้เราก็จะใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขและประสบความสำเร็จได้พร้อม ๆ กันแล้วล่ะครับ
ข้อคิด รู้จักแบ่งปันและให้ผู้อื่น แต่อย่าให้ใครมาเอาเปรียบเรามากจนเกินไป
ติดตามผลงานอื่น ๆ ได้ทาง Page Nopadol’s Story หรือ Nopadol’s Story Podcast ใน Podbean Soundcloud Apple Podcast Spotify YouTube หรือ Blockdit
No comment yet, add your voice below!