ผมว่าหลายคนน่าจะเคยมีประสบการณ์แบบนี้ เวลาเราไปเดินช้อปปิ้ง แล้วเห็นของที่กำลังลดราคา ก็รู้สึกสนใจ และยิ่งพนักงานขายมาบอกว่าวันนี้วันสุดท้ายแล้วนะพี่ หรือ เหลือแค่ 2 ชิ้นสุดท้าย หรือไม่ก็ถ้าพี่ซื้อตอนนี้พี่ได้โปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 เลยนะ หลาย ๆ คนก็เลยตัดสินใจซื้อทันที โดยมีเหตุผลสารพัดให้กับตัวเองว่า ของนี้จำเป็น ไม่ซื้อตอนนี้ เดี๋ยววันหลังก็ต้องซื้อ จะไปรอตอนนั้นทำไม ซื้อตอนนี้ถูกกว่า หรือได้ของแถมด้วย คุ้มสุด ๆ อะไรทำนองนี้
เหตุการณ์หลังจากนั้น หลายคนคงจะเดาได้ คือพอกลับมาบ้าน ของที่เราซื้อมานั้นก็ถูกวางทิ้งไว้ บางครั้งไม่ได้เอาออกมาจากถุงด้วยซ้ำ บางทีใหม่ ๆ เราอาจจะเห่อ พอซื้อมาก็รีบใช้เลย เช่น เสื้อผ้า เราก็อาจจะรีบซักแล้วจะได้เอามาใส่ แต่พอใส่ไปได้สักทีสองที ก็กองอยู่ในตู้เสื้อผ้า แล้วหลังจากนั้นก็ไปช้อปปิ้งเสื้อผ้าใหม่ วนไปเรื่อย ๆ
แล้วถ้าชอบซื้อ ชอบสะสม ของแบบนี้แล้วมันผิดตรงไหน จะทำให้เกิดความเครียดตรงไหน คือถ้าเรามีเงินเหลือเฟือ ก็คงไม่มีปัญหาใด ๆ หรอกครับ อยากซื้อเสื้อมาเป็นร้อย ๆ ตัว มีตู้เสื้อผ้าเป็นสิบ ๆ ตู้ ใส่เข้าไปให้หมด มีทุกแบบทุกรุ่นอะไรแบบนี้ก็ได้ แต่ถ้าไม่ใช่ การสะสมของต่าง ๆ แบบนี้ ส่งผลกระทบต่อเงินในกระเป๋า เราแน่นอน
แล้วทำอย่างไรดี ไม่ต้องไปซื้อของเลยเหรอ ไม่ใช่ครับ เราซื้อได้ และอยากแนะนำให้ซื้อของดี ๆ ด้วย แต่ขออย่างเดียวคือใช้ให้คุ้ม สมมุติเรื่องเสื้อผ้าก็ได้ ซื้อแบบดี ๆ ที่เราชอบสุด ๆ ไปเลย แต่ไม่ต้องซื้อเยอะมาก เสื้อผ้าที่ซื้อแล้วคุ้ม คือเสื้อผ้าที่เราซื้อมาแล้วเราชอบและใช้ตลอด มากกว่าที่จะเป็นเสื้อที่ซื้อมาเพราะเขาลดราคาหรือมีโปรโมชั่น
สำหรับของเดิม ๆ ที่เราสะสมไว้เต็มไปหมด แนะนำให้นำไปขาย นำไปบริจาค หรือจะให้เพื่อน ๆ หรือคนที่เรารู้จักก็ได้ครับ ผมว่าที่บ้านเราควรมีของน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่เป็นของที่ดีต่อใจของเราทั้งสิ้น ยิ่งมีของเยอะ ยิ่งหาของยาก ก็ยิ่งทำให้จิตใจเราว้าวุ่นมากขึ้นเป็นเงาตามตัว
ถ้าลดการซื้อของที่ไม่จำเป็นเข้าบ้าน และก็จัดการของที่เราไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้วโดยการขายหรือให้คนอื่นไป ผมว่าชีวิตเราจะโล่งขึ้น สบายขึ้น และแถมจะมีเงินติดกระเป๋าเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย น่าสนใจนะครับ
ติดตามผลงานอื่น ๆ ได้ทาง Page Nopadol’s Story หรือ Nopadol’s Story Podcast ใน Podbean Soundcloud Apple Podcast Spotify YouTube หรือ Blockdit
1 Comment
ขอบคุณมากครับอาจารย์