ใครเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับการพัฒนาตัวเอง โดยเฉพาะหนังสือที่ชื่อว่า The Secret น่าจะเคยได้ยิน “กฎแห่งแรงดึงดูด” มาบ้างไม่มากก็น้อย
และก็เป็นธรรมดาครับที่บางคนจะเชื่อเรื่องนี้ และก็มีหลายคนที่ไม่เชื่อเรื่องนี้ และเราไม่จำเป็นที่จะต้องมาโต้แย้งและโต้เถียงกันว่าใครถูกใครผิดเลยครับ
ก่อนอื่นเรามารู้จักแนวคิดนี้แบบคร่าว ๆ ก่อน กฎแรงดึงดูด คือกฎที่บอกว่าหากเราคิดถึงแต่สิ่งดี ๆ ก็จะมีแรงดึงดูดสิ่งดี ๆ เข้ามาสู่ตัวเรา ในทางกลับกัน หากเราคิดถึงสิ่งที่ไม่ดี ก็จะมีแรงดึงดูดสิ่งไม่ดีเข้ามาสู่ตัวเราเช่นกัน
ในหนังสือหลายเล่มไม่ได้อธิบายอย่างชัดเจนว่า “ทำไม” จึงมีปรากฏการณ์แบบนี้เกิดขึ้น แต่เขาก็บอกว่า ไม่จำเป็นต้องทราบหรอก เอาเป็นว่า นำไปทดลองทำดู แล้วจะรู้เองว่ากฎนี้มันทำงานแบบนี้จริง ๆ เหมือนกับกฎแรงโน้มถ่วงนั่นแหละ เราก็ไม่เคยมาตั้งคำถามว่า ทำไมของต้องตกจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ เราก็แค่รู้ว่ามีแรงโน้มถ่วงก็จบแล้ว ไม่ต้องไปรู้หรอกว่าแรงโน้มถ่วงถูกสร้างขึ้นเพื่ออะไร ทำไมถึงต้องตกจากที่สูงไปสู่ที่ต่ำด้วย
ฟังแล้วก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนแล้วล่ะครับ บางคนก็เชื่อ และก็บอกว่าไม่จำเป็นต้องรู้ ทำไปเถอะ ถ้ามันดีกับชีวิตก็จบแล้ว แต่ก็มีหลายคนที่คิดว่า ถ้าพิสูจน์ไม่ได้แล้วจะเชื่อได้อย่างไร ทำไมจะต้องเชื่อด้วย อะไรทำนองนี้
ถามว่าส่วนตัวผมอยู่ในกลุ่มไหน เชื่อหรือไม่เชื่อ ตอบตามตรง ตอนแรกที่อ่านหนังสือแล้วเจอ ผมก็ตั้งข้อสงสัยเหมือนกันว่า แล้วกฎแรงดึงดูดมีจริงหรือ คืออย่างแรงโน้มถ่วงมันเหมือนกับว่ามีคนพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์มาแล้ว แต่กฎแรงดึงดูดผมก็ยังไม่เห็นข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์
แต่อีกมุมหนึ่งผมก็คิดว่าแต่ถ้าเราทำตามก็ไม่เห็นจะมีอะไรเสียหายนะ ก็แค่คิดถึงสิ่งที่ดี ๆ อย่างน้อย ๆ เราก็จะมีความสุขแล้ว ส่วนจะดึงดูดความสุขความสำเร็จมาได้จริงหรือไม่ ก็ไม่เป็นไร ถ้าได้จริงแบบที่กฎแรงดึงดูดบอกไว้ก็ได้ ถ้าไม่ดึงดูดมาก็เหมือนเดิม ก็ไม่น่าจะมีอะไรเสียหาย
พอคิดแบบนี้แล้ว ผมก็ลองทำตามดูครับ ก็อย่างที่บอกคือคิดในมุมที่ดีมีความสุขก็โอเคแล้ว แต่เท่าที่สังเกต ผมก็เริ่มพบว่าก็มีสิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิตมากขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนกัน
แปลว่าผมกำลังจะบอกว่ากฎแรงดึงดูดมีจริงใช่หรือไม่ บอกตามตรง ผมก็ยังไม่แน่ใจครับ แต่ผมชอบคิด และผมก็ได้คำอธิบายใน Version ของผมแบบนี้ครับ
อย่างแรก เวลาที่เราคิดถึงสิ่งดี ๆ เรามักจะมีความสุข และเมื่อเรามีความสุข โอกาสที่เราจะประสบความสำเร็จในเรื่องต่าง ๆ ก็จะมากขึ้น ลองคิดดูว่า เรามีความสุข ยิ้มแย้มแจ่มใส เวลาเราทำอะไรก็น่าจะมีโอกาสสำเร็จมากกว่าที่เราจะหงุดหงิด โกรธ เศร้า จริงไหมครับ นอกจากนั้นถ้าเราอารมณ์ดีมีความสุข คนอื่น ๆ ก็อยากพูดคุย คบหาด้วย ก็น่าจะทำให้โอกาสที่จะทำอะไรสำเร็จก็เพิ่มมากขึ้นไปอีก จึงทำให้หลายคนเห็นว่ากฎแรงดึงดูดทำงาน
ประการถัดมา คือเวลาเราโฟกัสกับสิ่งดี ๆ เป็นเรื่องธรรมดาที่เรามักจะมีโอกาสเห็นสิ่งดี ๆ มากกว่าสิ่งที่ไม่ดี แปลว่าบางทีสิ่งดี ๆ กับสิ่งที่ไม่ดีก็อาจจะเกิดขึ้นกับเราเหมือนเดิมแหละ แต่หลังจากที่เราโฟกัสกับสิ่งดี ๆ จึงทำให้เราเห็นสิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิตมากกว่าสิ่งที่ไม่ดี และจึงทำให้เราเห็นว่ากฎแรงดึงดูดทำงาน
หรือจริง ๆ แล้ว ก็เป็นไปได้ที่กฎแรงดึงดูดมีอยู่จริง และก็ทำงานแบบนั้นจริง ๆ เอาจริง ๆ ผมก็ไม่ทราบครับ เพียงแต่สำหรับผมแล้วก็ไม่ได้เสียหายอะไรที่เราจะลองทำตามดู และด้วยเหตุผลข้างต้น ที่พอจะอธิบายได้ว่าโอกาสที่เราทำแล้วจะทำให้เราเจอแต่สิ่งดี ๆ ก็เป็นไปได้
ก็ลองนำไปพิจารณากันดูนะครับ จะเชื่อไม่เชื่อผมว่าก็แล้วแต่พิจารณาได้เลยครับ
ติดตามผลงานอื่น ๆ ได้ทาง Page Nopadol’s Story หรือ Nopadol’s Story Podcast ใน Podbean Soundcloud Apple Podcast Spotify YouTube หรือ Blockdit
No comment yet, add your voice below!