ถ้ามันไม่ Work ก็แค่เลิก

มีหลายคนถามผมว่าทำไมผมถึงกล้าที่จะเริ่มทำอะไรหลาย ๆ อย่าง ไม่อายหรือไม่กลัวที่จะล้มเหลวเหรอ ถ้าจะตอบแบบหล่อ ๆ ก็อาจจะตอบว่า ไม่กลัวหรอกครับ ความล้มเหลวเป็นบทเรียน แต่ถ้าจะตอบจริง ๆ คือ กลัวสิครับ ทำอะไรก็ไม่อยากให้ล้มเหลวอยู่แล้ว แล้วถ้าล้มเหลวล่ะ อายไหม อายสิครับ ทำไมจะไม่อาย เขียนบทความและไม่มีคนอ่านมันก็รู้สึก Fail อยู่แล้วล่ะ

งั้นทำไมถึงกล้าจะเริ่มทำอะไรหลาย ๆ อย่าง ถ้าใครติดตามฟัง Podcast ของผม คำตอบที่ผมมักจะให้คือ ถ้ามันไม่ Work ก็แค่เลิก มันไม่ได้มีอะไรที่จะเลวร้ายไปกว่านั้นจริงไหมครับ

ผมยกตัวอย่างจากประสบการณ์จริงของผมก็ได้ครับ ผมเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยหน้าที่หลักของผมก็คือการสอนหนังสือ ทำวิจัย และให้บริการทางวิชาการสู่สังคม เช่น การไปฝึกอบรมให้องค์กรอื่น หรือ การเป็นกรรมการในชุดต่าง ๆ และเพื่อความก้าวหน้าในตำแหน่งทางวิชาการ ผมก็จะต้องเขียนหนังสือหรือตำราเชิงวิชาการ

เรื่องเขียนไม่มีปัญหาหรอกครับ แต่สิ่งที่คาใจผมมาตลอดคือหนังสือหรือตำราทางวิชาการ ถ้าอยากเขียนเพื่อให้ผ่านการประเมินตำแหน่งทางวิชาการ มันต้องมีความเป็นทางการสูง ต้องมีงานวิจัยรองรับ มีทฤษฎีมากมาย คือเขียนได้แหละครับ แต่คนอ่านนี่สิ ถ้านอกจากจะเป็นผู้ทรงคุณวุฒิแล้ว ผมไม่แน่ใจว่าคนภายนอก หรือแม้กระทั่งนักศึกษาผม เขาจะอ่านรู้เรื่องไหม หรือถ้ารู้เรื่องก็อาจจะยากหน่อยในการทำความเข้าใจ

คิดได้แบบนั้น ผมก็เลยเริ่มคิดว่า ถ้างั้นเรามาเปิด Facebook Page เอาสิ่งที่อยู่ในหนังสือหรือตำราวิชาการที่เราเขียนมาย่อยให้อ่านได้ง่าย ๆ ดีไหม ถามว่ากลัวไหมครับว่าเปิด Page ขึ้นมาแล้วคนจะไม่อ่าน ไม่ติดตาม กลัวสิครับ อายด้วยอีกต่างหาก เขียนแล้วคนไม่อ่านมันก็ไม่สนุกหรอกจริงไหมครับ

กลัวแล้วทำไมถึงทำ คำตอบคือ ผมคิดง่าย ๆ แค่ว่า ถ้ามันไม่ Work ก็แค่เลิก ด้วยความคิดนี้แหละครับที่ต่อมาทำให้ผมได้เริ่มทำอะไรที่ไม่เคยทำอีกหลายอย่าง เช่น การเขียนหนังสือออกมาเป็น Pocket Book การเริ่มทำ Podcast การทำ Book Club และอื่น ๆ อีกมากมาย

แต่ข้อคิดนี้มีข้อแม้อยู่ 2 ข้อนะครับ คือถ้ามันไม่ Work จะต้องไม่ทำให้เราเดือดร้อนและไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนด้วยนะครับ อย่างเช่น การเปิด Page ของผม ถ้าสมมุติว่าไม่มีคนมาอ่าน ก็ไม่ได้ทำให้ผมและคนอื่นเดือดร้อน เช่นเดียวกับการเขียนหนังสือ ทำ Podcast หรือ ทำ Book Club ซึ่งทั้งหมดนั้น ผมไม่ได้ลงทุนอะไรมากมายเกินตัวเลย บางอย่างเรียกว่าฟรีซะด้วยซ้ำ

แต่ถ้าเป็นอะไรที่เราต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก หรือไปรับปากคนอื่นในการทำงานที่สำคัญ หรืออะไรก็ตามที่ถ้าเราทำได้ไม่ดี หรือจะเลิกทำ แล้วทำให้เราและคนอื่นเดือดร้อน อันนี้ต้องคิดดี ๆ นะครับ เพราะถ้ามันไม่ Work มันไม่ใช่แค่ว่าเราจะเดินออกมาเฉย ๆ เพราะมันจะทำให้เราหรือคนอื่นเขาลำบากได้เลย

เอาเป็นว่าถ้าเข้าข่ายอย่างที่ว่า แล้วเราอยากทำ ทำเลยครับ จำไว้ว่า ถ้าไม่ Work ก็แค่เลิกนะครับ

ข้อคิด ถ้าอะไรที่ทำแล้วไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนและอยากทำ ตัดสินใจทำไปได้เลย

ติดตามผลงานอื่น ๆ ได้ทาง Page Nopadol’s Story หรือ Nopadol’s Story Podcast ใน Podbean Soundcloud Apple Podcast Spotify YouTube หรือ Blockdit