เคยมีความสงสัยไหมครับว่าสิ่งที่เราทำอยู่เป็นสิ่งที่ “ใช่” สำหรับหรือเปล่า ผมว่าก่อนจะตอบคำถามว่าใช่หรือไม่ใช่ เราก็คงต้องให้นิยามกันก่อนว่าที่ว่า “ใช่” น่ะหมายถึงอะไรกันแน่ เพราะถ้านิยามต่างกัน คำตอบก็ย่อมแตกต่างกัน
ก็คงไม่มีนิยามกลางที่ทุกคนต้องใช้หรอกนะครับ แต่สำหรับผมสิ่งที่ “ใช่” คือสิ่งที่ผมทำแล้วสบายใจ ทำแล้วไม่ต้องมีความกังวล ไม่ว่าจะทำสิ่งนั้นสำเร็จหรือไม่ก็ตาม แค่ได้ทำก็มีความสุขแล้ว ถ้าใช้นิยามนี้ ข้อทดสอบง่าย ๆ สำหรับตัวผมเองว่าสิ่งที่ทำนั้นใช่หรือไม่ก็คือ ทำแล้วรู้สึกฝืนไหม ถ้ามันยังรู้สึกฝืนอยู่ แปลว่ามันยังไม่ใช่
ยกตัวอย่างครับ การเขียนหนังสือของผมนี่คือผมบอกได้เลยว่าใช่ เพราะมันแทบจะไม่ต้องใช้พลังกายพลังใจใด ๆ เลย แค่ได้เปิดคอมพิวเตอร์ออกมาแล้วได้พิมพ์ข้อความลงไป มันก็ให้ความสุขแล้ว โดยไม่จำเป็นว่า ข้อความนั้นเมื่อลงใน Page แล้ว จะมีคนอ่านมากน้อยแค่ไหน หรือตีพิมพ์ออกมาเป็นหนังสือแล้ว จะขายดีมากแค่ไหน ใช่ครับ ถ้าคนอ่านเยอะ หนังสือขายดี ก็มีความสุขเพิ่มขึ้นอันนั้นมันแน่นอนอยู่แล้ว แต่ต่อให้คนอ่านน้อย หรือหนังสือขายไม่ดี ก็ยังมีความสุขที่ได้เขียนอยู่ดี
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าถ้างั้นชีวิตเราก็ต้องทำสิ่งที่ใช่สำหรับเราเท่านั้น บางอย่างตอนเริ่มทำแรก ๆ มันก็อาจจะยังไม่ใช่ แต่มันก็มีความจำเป็นเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น สำหรับผมการวิ่งออกกำลังกาย ยังไม่ใช่สิ่งที่ “ใช่” สำหรับผม ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เพราะทุกครั้งที่ผมพยายามจะออกไปวิ่ง มันรู้สึกฝืน ไม่อยากทำ แบบนี้แสดงให้เห็นว่ายังไม่ใช่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมควรจะเลิกวิ่งเลย เพราะผมรู้ดีว่าการออกกำลังกายนั้นมันดีต่อสุขภาพ เพียงแต่เรายังคงต้องพยายามต่อ จนกระทั่งเราสามารถเปลี่ยนนิสัยเราจนทำให้เรารู้สึกสนุกกับการวิ่ง แบบนี้การวิ่งจะกลายเป็นสิ่งที่ใช่ในที่สุด
แต่ก็มีบางครั้งเหมือนกันที่เราพยายามแล้ว ใช้เวลากับมันแล้ว แต่มันก็ยังไม่ใช่อยู่ดี เช่น สมมุติว่าพยายามออกไปวิ่งแล้ว มันก็เบื่อ อยากเลิก ทำมาหลายเดือนแล้วก็ยังเบื่อเหมือนเดิม ผมแนะนำว่าลองหาวิธีอื่นในการออกกำลังกายดูครับ สำหรับเราการวิ่งอาจจะยังไม่ใช่ ลองไปว่ายน้ำ ตีแบด เตะบอล เข้ายิม อะไรแบบนี้ดู ผมว่าถ้าเราพยายามเดี๋ยวเราก็จะเจอสิ่งที่ใช่
ไม่ใช่เรื่องกิจกรรมอย่างเดียวนะครับ เรื่องความสัมพันธ์ก็ใช้การทดสอบนี้ได้เหมือนกัน คนที่ใช่ สำหรับผมคือคนที่เราอยู่ด้วยก็มีความสุขแล้ว เราเป็นตัวของตัวเองได้มากที่สุด แทบจะไม่มีอะไรต้องฝืนเลย แต่ถ้าเราเจอแล้วรู้สึกอึดอัด ไม่เป็นตัวของตัวเอง ก็แสดงว่าคนนั้น “ยัง” ไม่ใช่ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเราต้องเลิกคบเลยนะครับ ให้เวลากันสักหน่อย เรียนรู้กันไป สักพักเราก็คงบอกกับตัวเองว่า เออ จากที่อึดอัด ตอนนี้เริ่มรู้สึกดีขึ้นเรื่อย ๆ ละ แบบนี้ก็จะเปลี่ยนจากคำว่า “ไม่ใช่” มาเป็นคำว่า “ใช่” ละ แต่ถ้ายิ่งใช้เวลาอยู่ด้วยกันนาน ยิ่งอึดอัด ไม่มีความสุข สัญญาณของความ “ไม่ใช่” ก็จะยิ่งชัดขึ้น
และสุดท้าย เข้าใจครับว่า บางครั้งเราเลือกสิ่งที่ใช่หรือไม่ใช่ไม่ได้ด้วยตัวเอง อันนี้ก็ลองพิจารณากันว่าเราสามารถทำอะไรได้หรือไม่ ก็ทำให้เต็มที่เท่าที่เราจะทำได้ หลายเรื่องมันมีความซับซ้อน เราไม่สามารถตัดสินได้ง่าย ๆ เพียงแค่ว่าอะไรที่ใช่ก็ทำ ไม่ใช่ก็ไม่ทำ เราจะอยู่กับคนที่ใช่เท่านั้น คนที่ไม่ใช่ก็จะไม่อยู่ด้วย ได้แบบนั้นเลย
แต่ก็ถือว่าเป็นบททดสอบได้อย่างหนึ่งแล้วกันนะครับว่า อะไรที่ใช่ มันจะไม่ฝืน ครับ ลองไปสังเกตตัวเองกันนะครับ
ติดตามผลงานอื่น ๆ ได้ทาง Page Nopadol’s Story หรือ Nopadol’s Story Podcast ใน Podbean Soundcloud Apple Podcast Spotify YouTube หรือ Blockdit
No comment yet, add your voice below!