ต้องบอกว่าแนวทางนี้ผมได้มาจากการอ่านหนังสือแนวพัฒนาตัวเองหลาย ๆ เล่ม คือจะมีคำแนะนำประมาณว่าในแต่ละวัน ก่อนนอนขอให้เราเขียนคำขอบคุณสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นกับเราสัก 3 อย่าง เขียนทุกวันอะไรทำนองนี้
สารภาพว่าตอนแรก ๆ ก็เฉย ๆ คืออ่านผ่าน ๆ ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ยิ่งอ่านหนังสือมากขึ้น ก็ยิ่งเจอคำแนะนำนี้มากขึ้น ก็เลยคิดว่า ก็ลองดูไม่น่าจะเสียหายอะไร ถ้ามันไม่ได้ผล ก็แค่เลิกเท่านั้น
เริ่มต้นเขียนเมื่อประมาณกลางปี 2564 ครับ เอาสมุดโน้ตอันหนึ่งมาไว้ตรงเตียงนอน มีคำแนะนำว่า จะให้ดี เขียนแล้วให้ปิดไฟนอนเลย ไม่ใช่เขียนแล้วไปเล่นมือถืออะไรทำนองนี้ ก็ทำตามเขาไป
ตอนเริ่มเขียนใหม่ ๆ ก็นึกไม่ค่อยออกว่า แต่ละวันเราจะมีอะไรให้ขอบคุณบ้าง เพราะวันส่วนใหญ่ของเราก็คือวันธรรมดา ๆ เวลาเราจะขอบคุณอะไร เรามักจะนึกถึงเหตุการณ์ประทับใจสุด ๆ แบบประมาณว่า ได้รับรางวัล ได้เลื่อนขั้น ได้เงินเดือนเพิ่ม ได้งานใหม่ อะไรแบบนี้
แต่เคล็ดลับอยู่ตรงนี้แหละครับ คือ ไม่จำเป็นต้องหาสิ่งใหญ่ ๆ มาก ๆ แบบนั้น ซึ่งเราจะหาไม่ค่อยได้ทุกวันหรอก ลองหาสิ่งเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นทุกวัน แต่ก็เป็นสิ่งดี ๆ ที่เราชอบก็ได้ ไม่ต้องมากนักก็ได้ เช่น ขอบคุณที่ตอนเช้าได้ดื่มกาแฟ ขอบคุณที่ได้กอดลูก ขอบคุณที่ได้อ่านหนังสือ ขอบคุณที่ได้กินข้าวกลางวันกับเพื่อน อะไรทำนองนี้
คราวนี้ตอนแรก ๆ ที่เราทำ เราจะไม่ได้รู้สึกอะไรเลยครับ รู้สึกแปลก ๆ ด้วยซ้ำไปว่า เราจะมาขอบคุณอะไรกันนักหนากับเรื่องพวกนี้ แล้วยังจะต้องมานั่งเขียนทุกวันด้วย แต่แนะนำว่าทำไปเหอะครับอย่าไปคิดมาก เขียนแค่ 3 บรรทัดเอง
ผมทำมาติดต่อกันตอนนี้ก็เกือบ 2 ปีแล้ว แต่เชื่อไหมครับ สำหรับผม มันเห็นผลจริง ๆ คือมันไม่ได้เห็นผลแบบทันทีทันใดนะครับ มันค่อย ๆ ซึมเข้าไปในตัวเราแบบไม่รู้ตัว เราอย่าไปหวังว่า พอเราเขียนปุ๊บเราจะมีความสุขปั๊บแบบนั้น ไม่ใช่เลยครับ ยิ่งตอนแรก ๆ ยิ่งเฉย ๆ อย่างที่สุด
แต่ทำไปเรื่อย ๆ แล้วลองสังเกตตัวเราดู เราจะมีความสุขได้ง่ายขึ้น นิด ๆ หน่อย ๆ ก็อารมณ์ดีแล้ว เราจะเริ่มรู้สึกทนกับความทุกข์ได้ดีขึ้นด้วย มันเหมือนเราจะมองข้ามมันไปด้วยซ้ำ บางทีก็นึกแปลกใจว่า เออ ถ้าเป็นแต่ก่อน เกิดเหตุการณ์แบบนี้ เราคงทุกข์ใจแล้ว ตอนนี้ ไม่ใช่ว่าไม่รู้สึกอะไรเลย แต่ความรู้สึกเชิงลบมันเจือจางลง
แปลว่าสิ่งที่เราทำนั้นสร้างความมหัศจรรย์ขึ้นมาเลยเหรอ เป็นแนวกฎแรงดึงดูดอะไรแบบนั้นเหรอ เอาเป็นว่าถ้าในมุมนี้ผมไม่ทราบ แต่ถ้าจะให้อธิบายแนววิทยาศาสตร์ ผมคิดว่าพอจะอธิบายได้ครับ
คือพอเราขอบคุณแม้กระทั่งสิ่งเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้น มันจะทำให้สมองเราไปโฟกัสสิ่งนั้นมากขึ้นครับ และอะไรที่เราโฟกัส เราก็มักจะเห็นสิ่งนั้นมากขึ้นเป็นธรรมชาติ
เหมือนปกติเราก็มองเห็นรถยนต์ที่ขับทั่ว ๆ ไปไม่ได้สนใจอะไรมาก แต่พอเราอยากซื้อรถโตโยต้าสีขาว คราวนี้แหละ เราจะรู้สึกเลยว่า เราเห็นโตโยต้าสีขาวมากกว่าที่เราเคยเห็นตามปกติ
ไม่ใช่เป็นเพราะว่ารถโตโยต้าสีขาวเยอะขึ้นหรอกครับ แต่เป็นเพราะเรานี่แหละที่โฟกัสกับการมองหารถโตโยต้าสีขาวนี้มากขึ้น แบบเดียวกันเลยครับ การที่เรามานั่งคิดว่าวันนี้เราจะขอบคุณอะไรดี คือการที่เราจะโฟกัสไปกับความสุข
เมื่อเราโฟกัสไปที่ความสุข เราก็จะพบเจอความสุขบ่อยขึ้น จริง ๆ ความสุขกับความทุกข์ก็อาจจะเกิดขึ้นเหมือนเดิมไม่ได้แตกต่าง เพียงแต่สมองเราไปโฟกัสส่วนของความสุขมากขึ้น เราจึงมีความสุขมากขึ้น มีความทุกข์น้อยลง
ไม่ต้องเชื่อผมก็ได้ครับ ผมก็ไม่รู้ว่ามันจะใช้ได้กับทุกคนไหม เพียงแค่อยากให้ลองดู อย่างที่บอกแค่เขียนขอบคุณ 3 อย่าง แทบไม่มีต้นทุนอะไรเลย เงินก็ไม่ต้องจ่าย เวลาก็ใช้ไม่เยอะ
ทำต่อเนื่องเรื่อย ๆ เดี๋ยวจะเห็นผลเอง หรือถ้าทำมาแล้วไม่เห็นดี ก็แค่เลิกทำ แค่นั้นแหละครับ
ขอบคุณที่มีโอกาสได้เขียนเรื่องนี้ให้ทุกคนอ่านด้วยนะครับ 🙂
ติดตามผลงานอื่น ๆ ได้ทาง Page Nopadol’s Story หรือ Nopadol’s Story Podcast ใน Podbean Soundcloud Apple Podcast Spotify YouTube หรือ Blockdit
No comment yet, add your voice below!