ผมเป็นคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะทำอะไรหลาย ๆ อย่างพร้อม ๆ กันนะครับ คืออาชีพหลักผมคือาจารย์มหาวิทยาลัย แต่ผมก็เป็นนักเขียน และก็ยังเป็นผู้จัดพ็อดแคสต์ นี่คือยังไม่นับบทบาทอื่น ๆ เช่นการเป็นที่ปรึกษาบริษัทอะไรทำนองนี้อีกนะครับ
แล้วทำไมผมจึงแนะนำให้เลิกทำอะไรหลาย ๆ อย่างพร้อม ๆ กันละ ตรงนี้แหละครับที่ผมอยากจะขยายความ จริง ๆ แล้วที่แนะนำให้เลิกทำอะไรหลาย ๆ อย่างพร้อม ๆ กัน ผมหมายถึงการทำอะไรหลาย ๆ อย่างที่มันไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใด ๆ ซึ่งกันและกันเลย
เหตุผลที่อยากให้เลิกเพราะถ้าเราทำอะไรหลาย ๆ อย่างที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน เราต้องยอมรับว่า เราจะไม่มีเวลา หรือ เราจะไม่สามารถทุ่มเทกับสิ่งต่าง ๆ ที่เราทำได้มากพอสักสิ่งเดียว ซึ่งบอกได้เลยว่าโอกาสที่เราจะทำสิ่งนั้นให้สำเร็จมาก ๆ มันก็จะน้อยลง
แล้วทำไม ดูเหมือนผมก็ทำหลาย ๆ อย่างพร้อมกัน แล้วก็ดูเหมือนจะประสบความสำเร็จพอสมควรล่ะ คำตอบคือ มันดูเหมือนหลายอย่างก็จริง แต่จริง ๆ แล้วมันมีจุดร่วมกันอยู่ครับ
ลองมาวิเคราะห์กันดูนะครับ ผมเป็นอาจารย์ อาชีพหลักคือ สอนหนังสือ ทำงานวิจัย และบริการวิชาการสู่สังคม ผมสอนวิชาเกี่ยวข้องกับการวัดผลองค์กร ทำวิจัยก็เรื่องนี้ ให้บริการวิชาการสู่สังคม ผมก็เน้นในเรื่องนี้อีกเช่นกัน
ต่อมาผมเขียนหนังสือ ผมก็เขียนเกี่ยวกับการวัดผลองค์กร OKRs ซึ่งก็เป็นระบบวัดผลระบบหนึ่ง หรือจัดพ็อดแคสต์ ผมก็ทำเรื่องที่ผมเชี่ยวชาญคือเรื่องการวัดผล หรือไม่ก็เอาหนังสือที่ผมอ่านเป็นงานอดิเรกอยู่แล้วมารีวิว หรือแม้กระทั่งการเป็นที่ปรึกษา ผมก็ไม่ได้เป็นที่ปรึกษาในทุกเรื่อง ผมเป็นที่ปรึกษาเฉพาะองค์กรที่อยากทำ OKRs เท่านั้น
จะเห็นว่าที่ดูเหมือนผมมีหลายบทบาทนั้น จริง ๆ แล้วมันใช้องค์ความรู้หลักอันเดียวเลยครับ และการทำแบบนี้จะทำให้เรารู้ลึกในเรื่องนั้นมากขึ้น และรู้รอบที่จะนำไปใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ
แต่ลองนึกภาพว่า ถ้าผมสอนหนังสือเรื่องการวัดผลองค์กร ทำวิจัยเรื่องนวัตกรรม ให้บริการวิชาการสู่สังคมเรื่องการจัดการการเงิน เขียนหนังสือด้านการตลาด จัดพ็อดแคสต์เรื่องการจัดการการผลิต และเป็นที่ปรึกษาให้กับองค์กรเรื่องการพัฒนาบุคลากร ถามว่าแบบนี้ผมจะทำไหวไหม ก็คงยาก ต่อให้ทำไหว ถามว่าผมจะเก่งสักเรื่องไหม คำตอบก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
เราเคยเห็นนักกีฬาโอลิมปิกที่คว้าหลาย ๆ เหรียญทองไหมครับ คำตอบก็คือมี เช่น ไมเคิล เฟ็ลปส์ นักว่ายน้ำในตำนาน ทีมชาติอเมริกัน ที่คว้าเหรียญทองโอลิมปิกมากที่สุดในประวัติศาสตร์ถึง 23 เหรียญทอง แต่สังเกตนะครับ เขากวาดเหรียญทองในกีฬาว่ายน้ำกีฬาเดียว ถึงจะว่ายคนละท่า ระยะทางต่างกันก็เถอะ แต่เขาใช้ทักษะการว่ายน้ำในรูปแบบที่ไม่ต่างกันมากนัก
ลองนึกภาพว่า เราพยายามให้ไมเคิล เฟ็ลปส์ คว้าเหรียญทองจากการว่ายน้ำ วิ่งมาราธอน ยิมนาสติก เทนนิส และกระโดดสูง ดูสิครับ คิดว่าจะทำได้ไหม คำตอบคืออย่าว่าแต่เหรียญทองเลครับ ผมว่า ไมเคิล เฟ็ลปส์ อาจจะไม่ติดทีมชาติในกีฬาแต่ละชนิดเลยด้วยซ้ำ เพราะเขาไม่มีเวลาซ้อมกีฬาแต่ละอย่างอย่างเต็มที่ และโอกาสที่เขาจะเก่งมาก ๆ มันก็จะน้อยลง
ไม่ได้ห้ามนะครับ ถ้าอยากทำอะไรหลาย ๆ อย่างพร้อม ๆ กัน แต่ถ้าอยากสำเร็จ ขออย่างเดียว ให้มันมีอะไรที่สอดคล้องกัน แบบนั้นทำได้เลย ดีซะด้วยซ้ำ แต่ถ้ามันไม่เกี่ยวกันเลย อันนี้ลองคิดดูดี ๆ ก่อนนะครับ เพราะโอกาสที่จะทำจนสำเร็จมาก ๆ มันจะยาก แต่ถ้าอยากทำ เพราะแค่อยากทำ ไม่ได้หวังผลอะไรหรอก แค่สนุกในการทำหลาย ๆ เรื่อง แบบนั้นก็ได้เลยครับ ชีวิตเราอยู่แล้ว เราเลือกอะไรที่คิดว่าตอบโจทย์เราครับ
ติดตามผลงานอื่น ๆ ได้ทาง Page Nopadol’s Story หรือ Nopadol’s Story Podcast ใน Podbean Soundcloud Apple Podcast Spotify YouTube หรือ Blockdit
No comment yet, add your voice below!