เริ่มต้นแบบนี้นะครับ ผมไม่ได้กำลังบอกว่าเสี่ยงไปเหอะ ไม่ต้องกลัวอะไร จัดไปเต็มที่อะไรแบบนั้นนะครับ จะได้เข้าใจกันก่อน แต่สิ่งที่กำลังจะบอกคือความเสี่ยงมันมีอยู่ 2 แบบ คือความเสี่ยงที่เราคำนวณได้ กับความเสี่ยงที่เราคำนวณไม่ได้
ถ้าเป็นความเสี่ยงในสิ่งที่เราคำนวณไม่ได้ ผมแนะนำให้กลัวครับ เพราะความเสี่ยงประเภทนี้เราไม่รู้เลยว่ามันจะทำให้เราเสียหายไปได้ถึงขนาดไหน แต่ถ้าเป็นความเสี่ยงที่เราพอจะคำนวณได้ อันนี้แหละครับที่เป็นที่มาที่ผมจะบอกว่าเราไม่จำเป็นต้องกลัวมากจนเกินไป
ยกตัวอย่างการลงทุนในตลาดหุ้นก็ได้ครับ ถ้าเราลงทุนแบบไม่รู้อะไรเลย เพียงแต่เพื่อนแนะนำมาว่าหุ้นตัวนี้ดีนะ ได้ข่าวมาว่าจะขึ้น 5 เท่า 10 เท่า แล้วเราก็กู้เงินมาลงทุนสุดตัวเลย แบบนี้เป็นความเสี่ยงที่เราคำนวณไม่ได้เลย คือถ้าจะถามว่าโอกาสที่จะหุ้นนั้นจะขึ้นเป็นเท่าไร เราก็ไม่รู้ โอกาสที่ราคาหุ้นจะลงเป็นเท่าไรก็ไม่รู้อีก แบบนี้ควรกลัวครับ
แต่ถ้าเราศึกษาหุ้นตัวนั้นมาอย่างดีแล้ว เรารู้จักบริษัท เก็บข้อมูลต่าง ๆ รอบตัว ดู Indicator ต่าง ๆ แล้วเรารู้สึกว่าโอกาสที่จะขึ้นมีมากกว่าโอกาสที่จะตก และถ้ามันตกจริง ๆ เราก็มีแผนว่าถ้าต่ำกว่าราคานี้เราจะ Cut Loss คือยอมขายขาดทุนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายมาก และแถมเรายังใช้เงินเย็น คือไม่ได้กู้เงินใครเขามา เป็นเงินที่เรายังไม่ได้มีความต้องการใช้มาลงทุน แบบนี้ถามว่าการลงทุนนี้มีความเสี่ยงไหม คำตอบคือ มี แต่มันพอจะคิดคำนวณได้ระดับหนึ่ง แบบนี้ผมอยากแนะนำว่าไม่ต้องกลัวมากจนเกินไป
ใช่ครับ ถึงแม้ดูทุกอย่างแล้ว ศึกษาทุกอย่างแล้ว เราก็อาจจะขาดทุนได้อยู่ดี แต่ด้วยแผนที่เรามี การศึกษาเตรียมความพร้อมไว้ทุกอย่าง ถ้าจะขาดทุนก็คงขาดทุนไม่เยอะ
แล้วทำไมเราต้องเสี่ยงด้วยล่ะ เราไม่ต้องลงทุนเลยไม่ได้เหรอ จะได้ตัดโอกาสขาดทุนไปเลยไง นี่แหละครับคือประเด็น เพราะมันไม่มีทางเลือกไหนหรอกครับที่ความเสี่ยงเป็นศูนย์ หลายคนอาจจะเห็นแย้งว่า ก็เก็บเงินสดไว้ไง เราไม่ลงทุน เราก็ไม่มีวันขาดทุน
ถ้าคิดเผิน ๆ เหมือนจะใช่ แต่ความจริงไม่ใช่เลยครับ การเก็บเงินสดไว้อาจจะทำให้เราไม่ขาดทุนจากการลงทุน แต่ทุกวันนี้มันมีสิ่งที่เรียกว่าเงินเฟ้อ แปลว่าค่าของเงินมันลดลงทุกวันครับ เงินเท่าเดิม แต่ของแพงขึ้น หรือถ้าจะมองอีกแบบ เงินสดก็คือหุ้นตัวหนึ่งนั่นแหละครับที่การันตีการขาดทุนเลยด้วยซ้ำ
ดังนั้นการไม่ลงทุนอะไรเลยก็เป็นความเสี่ยงอยู่ดีครับ แต่ก็อย่างที่บอกคือไม่ได้บอกว่างั้นลงทุนมั่วซั่วไปเลย ไม่ใช่ ลงทุนในสิ่งที่เรารู้ เราเข้าใจ หาทางจำกัดความเสี่ยงต่าง ๆ อย่ากลัวความเสี่ยงที่เราศึกษามาแล้วมากจนเกินไป ผมว่าน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดนะครับ
ติดตามผลงานอื่น ๆ ได้ทาง Page Nopadol’s Story หรือ Nopadol’s Story Podcast ใน Podbean Soundcloud Apple Podcast Spotify YouTube หรือ Blockdit
No comment yet, add your voice below!