หลายคนทำงานหนักมาก ๆ แทบไม่ได้พักผ่อนเลย และพอมีคนถามว่าทำไมไม่หาคนมาช่วยล่ะ เขาจะตอบว่า มันไม่มีใครมาแทนได้หรอก มันต้องเป็นเราเท่านั้น และหลังจากนั้นก็จะมีเหตุผลร้อยแปดพันประการมาสนับสนุนว่าทำไมถึงต้องเป็นเรา สุดท้าย งานก็ท่วมหัว ทำกันจนหมดแรง หมดไฟกันไป
แล้วเราจะทำอย่างไรดี ผมว่าเราต้องแยกปัญหานี้ออกเป็น 2 ประเด็นนะครับ ประเด็นแรกคือ จริงหรือ ที่ไม่มีใครจะมาแทนเราได้ ผมทราบครับว่าเราอาจจะทำงานนี้มานาน จนมีความเชี่ยวชาญ และก็ทำให้เรารู้สึกว่าต้องเป็นเราเท่านั้นที่จะทำงานนี้ได้ดี แต่อย่าลืมว่าคนอื่น ๆ เขาก็มีความสามารถในการเรียนรู้เหมือนกัน และบางครั้ง ถ้าให้เวลาเขาสักหน่อย เขาอาจจะเรียนรู้ได้เร็วกว่าเรา และเก่งกว่าเราอีกด้วย
บางคนทำงานบางอย่างมานาน จนรู้สึกว่าองค์กรจะขาดเราไม่ได้ ต้องมีปัญหาแน่ ๆ ใช่ครับ บางคนเก่งแบบนั้นจริง ๆ ถ้าเขาลาออก องค์กรได้รับผลกระทบจริง ๆ แต่ต้องยอมรับว่าส่วนใหญ่ในที่สุดองค์กรก็จะหาคนมาแทนเราได้อย่างไม่ยากเย็นนัก และเผลอ ๆ อาจจะได้คนที่เก่งกว่าหรือดีกว่าเราได้อีกด้วย
ดังนั้นถ้าเราเปิดใจสักหน่อย เปิดโอกาสให้คนมาทำงานบางอย่างแทนเรา ให้เวลาเขา และสอนเขาให้รู้วิธีการทำงาน คนที่จะได้ประโยชน์ก็คือเรานี่แหละ เพราะเราจะสามารถปล่อยมือได้ เพราะมีคนมาแทนเราแล้ว สำหรับคนที่กลัวว่า ถ้าเขาเก่งกว่าเรา เขาอาจจะได้รับโปรโมทมาแทนเราน่ะสิ ใช่ครับ เขาอาจจะมาทำแทนเราได้เลย แต่ไม่ต้องกลัวครับ ถ้าเราสามารถสร้างคนให้เก่งจนมาแทนเราได้ เราจะได้รับการโปรโมทให้อยู่ในตำแหน่งที่สูงขึ้นไปอีก เพราะเราได้รับการพิสูจน์แล้วว่า เราเก่งในการสร้างคนจริง ๆ ผู้บริหารองค์กรย่อมอยากให้เราสร้างคนที่เก่งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จริงไหมครับ ยิ่งเราอยู่ตำแหน่งสูง เรายิ่งมีโอกาสสร้างคนในตำแหน่งที่สำคัญ ๆ ได้มากขึ้น
มาประเด็นถัดไป สมมุติว่า เราเก่งจริง ๆ ไม่มีใครมาแทนเราได้จริง ๆ ล่ะ เราจะปล่อยให้คนอื่นทำ คุณภาพของงานลดลงแน่ ๆ ไม่ว่าจะสอน จะฝึกอบรมอย่างไร ก็ไม่มีทางจะเจอคนที่เก่งเท่าเราได้เลย แบบนี้เราจะปล่อยให้คนอื่นทำได้อย่างไร
ถึงแม้ว่าจะเป็นแบบนี้จริง ๆ ผมก็ยังแนะนำให้ปล่อยให้คนอื่นทำอยู่ดีครับ เหตุผลคือ เวลาเราจำกัดนะครับ เราทำไม่ได้ทุกเรื่องอยู่แล้ว ดังนั้นการให้คนมาทำแทนเราถึงแม้ผลลัพธ์อาจจะไม่ดีเท่าเรา แต่ก็ยังดีกว่าที่เราพยายามจะทำเอง แต่เราสุดท้ายเราก็ทำไม่ได้ เพราะไม่มีเวลาทำ
ยกตัวอย่างแบบนี้ครับ ถ้าเรามีงาน 3 อย่าง คือ A B และ C งานแต่ละอย่าง มีคะแนนคุณภาพเต็ม 10 และถ้าเราทำงานทั้ง 3 อย่างได้ด้วยตัวเอง เนื่องจากเราเก่งมาก เราจะทำงานแต่ละประเภทได้คะแนน 9 คะแนน แต่ถ้าเราให้ลูกน้องเราทำ เขาจะทำงานได้คุณภาพแค่ 7 คะแนนเท่านั้น แบบนี้เราควรจะให้ลูกน้องเราทำไหม
คือถ้าเราว่าง ๆ ทำงานได้หมดอยู่แล้ว จะทำเองทั้งหมดก็ได้ และถ้าเป็นแบบนั้น ก็ไม่จำเป็นต้องมีลูกน้องด้วย แต่ในความเป็นจริง เราไม่มีเวลาที่จะทำทั้ง 3 งานนั้นพร้อม ๆ กัน เราอาจจะเลือกทำได้แค่ 2 งาน สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เราจะทำได้ 2 งาน ได้คะแนนรวม 18 คะแนน แต่ถ้าเราปล่อยให้ลูกน้องเราทำสักงาน แทนที่เราจะทำได้ 2 งาน และได้ 18 คะแนน เราจะได้คะแนนเพิ่มมาอีก 7 คะแนน จากงานที่ 3 ที่เราไม่มีเวลาทำแล้วเราให้ลูกน้องเราทำ คะแนนรวมจะสูงขึ้นเป็น เป็น 25 คะแนน
และถ้าเราเปิดโอกาสให้ลูกน้องเรา ทำหมดทั้ง 3 งาน เขาจะทำงานได้คะแนนรวม 21 คะแนน (7 คะแนน x งาน 3 ชิ้น) และตัวเราอาจจะไปริเริ่มทำงานใหม่ได้อีก 2 งาน ซึ่งจะได้คะแนนมาอีก 18 คะแนน รวมแล้ว เราจะมีงานรวมทั้งหมด 39 คะแนน
นี่ยังไม่นับรวมว่า เมื่อลูกน้องเราทำงานแบบนี้เรื่อย ๆ เขาจะมีประสบการณ์มากขึ้น เก่งขึ้น จนคุณภาพงานของเขาก็จะมากขึ้นไปด้วย และเขาอาจจะทำได้เก่งกว่าเราได้ด้วยซ้ำ
อย่าสร้างความเครียดให้กับตัวเรา ด้วยความคิดที่ว่าทุกอย่างต้องเป็นเราเท่านั้นได้แล้ว ใช่ครับ บางอย่างอาจจะต้องเป็นเรา แต่ผมคิดว่าคงไม่ใช่ทุกอย่างนะครับ
ติดตามผลงานอื่น ๆ ได้ทาง Page Nopadol’s Story หรือ Nopadol’s Story Podcast ใน Podbean Soundcloud Apple Podcast Spotify YouTube หรือ Blockdit
No comment yet, add your voice below!