ผมว่าคำ ๆ หนึ่งที่ทำให้เราเครียดขึ้นทันทีคือคำว่า “ต้อง” เช่น เราต้องได้ที่ 1 เราต้องได้เงินเดือนขึ้น เราต้องไปทำงาน สารพัด “ต้อง” ที่เราจะเจอ คือใช่ครับ มนุษย์แต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะเกิดมารวย คำว่า “ต้อง” ของเขาก็อาจจะน้อยหน่อย คือ เขาอาจจะไม่ต้องหาเงิน ไม่ต้องทนทำอะไรที่เขาไม่อยากทำ ส่วนคนที่เกิดมาจน ก็อาจจะมีคำว่า “ต้อง” มากหน่อย เพราะถ้าไม่ทำก็จะไม่มีอะไรจะกิน ประมาณนี้
ข้อแนะนำคือไม่ว่าจะมีมากหรือน้อย ถ้าเราลดคำว่า “ต้อง” ลงได้ ชีวิตเราจะเบาสบายขึ้นเยอะ คือที่บอกให้ลด ไม่ได้แปลว่าจะต้องเหลือศูนย์เลยนะครับ อย่างที่บอกว่าบางอย่างจำเป็นต้องทำก็ต้องทำ แต่ผมก็ยังเชื่อว่าก็อาจจะมีสิ่งที่เราคิดไปเองว่าเราต้องทำ คือเราไม่ได้เคยตั้งคำถามใด ๆ แต่เราก็ยังทำมาเรื่อย ๆ อันนี้แหละครับที่ถ้ามี เราจะสามารถลดลงได้
ข้อแนะนำคือ เราลองเขียนสิ่งที่เราต้องทำในแต่ละวันขึ้นมา และลองถามตัวเองว่าอันนี้คือเราต้องทำจริง ๆ ไหม ถ้าเราไม่ทำ จะเกิดอะไรขึ้น อะไรที่เราตอบตัวเองว่าต้องทำแน่ ๆ คือถ้าไม่ทำ ชีวิตเราแย่แน่ ๆ ก็เก็บไว้ครับ แต่บางอย่าง ถ้าคำตอบคือ เอ จริง ๆ ไม่ทำก็ได้นะ หรือเอาจริง ๆ ถึงเราจะไม่ทำ ก็ไม่ได้ทำให้เราหรือคนอื่นเดือดร้อน อันนี้เราอาจจะเลิกทำ หรือทำให้น้อยลงก็ยังได้
ยกตัวอย่างนะครับ สมมุติว่า กิจกรรมของแต่ละวันคือ 1) ส่งลูกไปโรงเรียน 2) ไปทำงาน 3) ไปรับลูก 4) ไปเตะบอลกับเพื่อน 5) ดูซีรีส์ 6) นอน ดูเผิน ๆ เราอาจจะคิดว่านี่แหละทั้งหมดที่เราต้องทำ คือการทำทุกข้อมันมีเหตุผล แม้แต่เตะบอลกับเพื่อน เราก็ต้องไป เพราะมันงั้นเพื่อนจะงอน ดูซีรีส์ก็ต้องดู เพราะมันเป็นการพักผ่อน
แต่ลองคิดใหม่ครับ จริง ๆ หลายข้อ เรา “เลือก” ที่จะทำมากกว่าที่จะเป็นสิ่งที่เราต้องทำ เช่น เตะบอลกับเพื่อน ลองถามว่าถ้าไม่ไป จะเกิดอะไรขึ้น เราต้องไปทุกครั้งเลยจริงไหม และถ้าเพื่อนงอน จะงอนขนาดเลิกคบไหม และถ้าถึงขนาดเลิกคบ เขาจะเป็นเพื่อนที่เราควรคบด้วยจริง ๆ ไหม
บางคนอาจจะคิดว่าตัวอย่างนี้มันชัดเจนว่า เตะบอลกับเพื่อน หรือ ดูซีรีส์ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องทำจริง ๆ ถ้ามันมีแต่สิ่งที่เราต้องทำล่ะ งั้น ลองมาดูอันที่ยากขึ้น เช่น ไปส่งลูกที่โรงเรียนทุกวัน อันนี้คุณพ่อคุณแม่หลายคนคงคิดว่ามันต้องทำแน่ ๆ แต่ลองคิดกันใหม่ว่า เราจะเป็นต้องไปส่งลูกพร้อม ๆ กันทั้ง 2 คน คือทั้งคุณพ่อคุณแม่จริงหรือ เราแบ่งกันไปส่ง หรือ ไปรับกันได้ไหม แต่ละคนอาจจะได้เวลากลับมาเพิ่มขึ้นอีกมหาศาล ลดความเครียดจากรถติดได้อีกตั้งเยอะ หรือแม้กระทั่งการเดินทางไปทำงาน ลองถามดูดี ๆ ว่าเราต้องเดินทางไปทำงานจริงหรือ การขอหัวหน้าทำงานที่บ้าน พอจะเป็นไปได้ไหม อาจจะไม่ทุกวัน แต่เฉพาะบางวัน หรือถ้าหัวหน้าบอกไม่ได้ ต้องมาที่ที่ทำงานทุกวัน ลองถามตัวเองต่อว่า เราต้องทำงานที่นี่จนเกษียณจริงหรือไม่ มีที่อื่นที่เขาอนุญาตให้เราทำงานที่บ้านได้ไหม อะไรแบบนี้
คือถ้าเราลองถามตัวเองแล้ว คำตอบก็คือ เรายังคิดว่าเรายังต้องทำ เพราะถ้าไม่ทำ จะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี ก็ทำต่อไปได้เลยครับ อย่างที่บอก เราคงเลิกทำทุกอย่างอย่างที่เราต้องการไม่ได้หรอก เพียงแต่เอาให้แน่ใจว่า ที่เราบอกว่า “ต้อง” นั้น มันใช่จริงหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ เราลด ละ เลิก คำว่า “ต้อง” ลงบ้าง ชีวิตเราน่าจะเบาสบายขึ้นนะครับ
ติดตามผลงานอื่น ๆ ได้ทาง Page Nopadol’s Story หรือ Nopadol’s Story Podcast ใน Podbean Soundcloud Apple Podcast Spotify YouTube หรือ Blockdit
No comment yet, add your voice below!