22 ข้อคิดที่ได้จากหนังสือ The Invisible Leader

1. สิ่งที่ดูเหมือนเร็ว แรง และว่องไว อาจจะไม่ได้เป็นสิ่งที่ดีเสมอไป สุดท้ายจะมีอะไรบางอย่างทีจะมาหยุดความเร็ว แรง และว่องไวนั้น และกลับมาสู่ในลู่ทางที่ควรจะเป็น

2. โลกปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วมาก และยากที่จะมีใครทำนายทิศทางได้ถูกต้อง 100% ถึงแม้ว่าคนนั้นจะเก่งมากแค่ไหนก็ตาม

3. เราไม่มีทางต่อต้านความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นได้ เราต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลงนั้น ปล่อยตัวเองให้ไหลไปกับการเปลี่ยนแปลง

4. ลดอีโก้ของตัวเองลง อย่าคิดว่าเรารู้ทุกเรื่อง เพราะถ้าคิดเช่นนั้นเราจะไม่พัฒนา และในที่สุดก็จะไม่รู้ว่าที่จริงแล้วเราไม่รู้อะไรเลย

5. วิสัยทัศน์เป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะจะเป็นเครื่องชี้ทางให้เราทราบว่าควรทำอะไรหรือไม่ควรทำอะไร ไม่เช่นนั้นเราอาจจะทำอะไรสะเปะสะปะไปหมด และไม่สอดคล้องกับจุดหมายปลายทางของเรา

6. ผู้นำต่างจากคนอื่นตรงที่ผู้นำสามารถสร้างวิสัยทัศน์และเชื่อมโยงให้เข้ามาอยู่ในทุกพันธกิจที่ทำได้

7. องค์กรต้องการผู้บริหารมาจัดการและควบคุมความเสี่ยงและดูแลให้ทุกอย่างเป็นไปตามแผน แต่การมีผู้บริหารไม่ได้แปลว่าเรามีผู้นำแล้ว

8. การตั้งเป้าหมายว่าจะเป็นที่หนึ่งในทุกด้าน นอกจากจะเป็นเป้าหมายที่เป็นไปไม่ได้แล้ว ยังเป็นเป้าหมายที่ทำให้คนเอาแต่ใช้วิธีเดียวกัน แข่งขันกัน เพื่อผลลัพธ์เดียวกัน ซึ่งในที่สุดจะไม่ได้มีผู้ชนะอย่างแท้จริง

9. องค์กรในประเทศไทยบางองค์กรมีแต่กลยุทธ์ แต่ขาดแผนที่ชัดเจนว่าจะทำอย่างไร แต่บางองค์กรก็มีแผนที่ละเอียดมาก แต่ขาดกลยุทธ์คอยกำกับ

10. หน้าที่ของผู้นำ ไม่ได้อยู่ที่แค่การคิดกลยุทธ์อย่างเดียว แต่ต้องสามารถปรับเปลี่ยน พลิกแพลงได้อย่างรอบด้าน

11. หัวหน้าต้องรู้จักฟังลูกน้อง เพราะมีหลายเรื่องที่ลูกน้องนั้นรู้ดีกว่าหัวหน้า

12. บทสนทนาระหว่างคนสองคนมักจะจบลง ถ้าอีกฝ่ายเริ่มที่จะดัดสินอีกฝ่าย

13. เป้าหมายของพนักงานกับเป้าหมายขององค์กรอาจจะไม่ตรงกัน ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่บอกได้ว่าใครผิดใครถูก พนักงานก็มีมุมมองของเขา องค์กรจึงไม่สามารถบังคับให้พนักงานมองในมุมมองขององค์กรได้เสมอไป ถ้าจะต้องแยกทางกัน ก็จะแยกทางกันด้วยความเข้าใจ

14. ผู้นำคือคนสร้างให้ผู้ลูกน้องเก่งขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งวันหนึ่งถ้าลูกน้องเก่งกว่าผู้นำ ผู้นำคนนั้นภูมิใจได้เลยว่าตอนนี้เขาเป็นผู้นำล่องหน ซึ่งหมายความว่าเราเป็นผู้นำ โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่งใด ๆ เลยก็ได้

15. เราจะมีพลังเพิ่มขึ้นพิเศษเมื่อเราทราบว่ามีใครบางคนที่เชื่อมั่นในตัวเรามากกว่าที่เราเชื่อมั่นในตัวเราเสียอีก เนื่องจากเราจะพยายามทำสุดกำลังเพื่อไม่ทำให้เขาผิดหวัง

16. การเป็นผู้นำคือการกระทำในระยะยาว เหมือนกับการวิ่งอัลตรามาราธอน เราต้องรู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา และหาจังหวะของตัวเองให้เจอ

17. เมื่อประสบความสำเร็จ เราควรดีใจร่วมกันกับทีม ถ้าดีใจร่วมกันไม่ได้ ก็ไม่ควรมีใครควรดีใจเลย เพราะเราเหนื่อยมาด้วยกัน เป็นไปไม่ได้ที่เราจะดีใจอยู่คนเดียว

18. ความเหลื่อมล้ำเหมือนเป็นกระดุมเม็ดแรก ถ้าไม่แก้ไขเรื่องนี้ก่อน ก็จะมีปัญหาตามมาอีกมากมาย

19. อย่าเอาแต่คว้าโอกาสในระยะสั้นจนทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในระยะยาว ซึ่งจะส่งผลเสียเป็นอย่างมาก

20. ธุรกิจจะได้ประโยชน์จากสังคม ดังนั้นธุรกิจควรจะต้องยึดผลประโยชน์ทางสังคมเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายของธุรกิจ

21. เริ่มผลักหินก้อนใหญ่ให้ได้ก่อน เสร็จแล้วหินก้อนนั้นจะผลักหินก้อนต่อ ๆ ไปเอง จะกลายเป็นโมเมนตัมที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

22. เราจะดีกว่าที่เป็นอยู่ได้เสมอ เรามีศักยภาพากกว่าที่เราคิด และเราจะไปได้ไกลที่สุดถ้าเราตระหนักรู้ว่าตัวเราก็เป็นผู้นำล่องหนได้เช่นกัน

ติดตามผลงานอื่น ๆ ได้ทาง Page Nopadol’s Story หรือ Nopadol’s Story Podcast ใน Podbean Soundcloud Apple Podcast Spotify YouTube หรือ Blockdit

Recommended Posts

No comment yet, add your voice below!


Add a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *