ขอเริ่มต้นด้วยที่มาของชื่อหนังสือเล่มนี้ มีช่างไม้อยู่คนหนึ่ง เป็นช่างไม้ที่แกะสลักช้างได้งดงามมาก ผู้คนก็สงสัยอยากรู้ว่าจะต้องทำอย่างไรถึงจะแกะสลักช้างได้งดงามแบบนี้บ้าง ช่างไม้คนนี้ตอบว่า ก่อนอื่นเราต้องหาไม้ดี ๆ มาให้ได้เสียก่อน เมื่อได้มาแล้ว ก็แค่แกะส่วนที่ไม่ใช่ช้างออกไป เท่านี้คุณก็จะได้ช้างแกะสลักแล้ว
ความหมายของสิ่งนี้ก็คือ หากเราต้องการเป็นอะไร สิ่งที่จำเป็นต้องทำก็คือ เลิกทำสิ่งที่ไม่ใช่เสีย เพราะหากคุณยังมัวทำโน่นทำนี่ที่ไม่เกี่ยวกับสิ่งที่คุณอยากจะเป็น หรือไม่เกี่ยวกับเป้าหมายของเราเลย สุดท้ายแล้วมันก็ยากที่เราจะไปถึงจุดหมายนั้น ๆ
สำหรับเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ ส่วนใหญ่ก็จะมีคำแนะนำไปในลักษณะนี้เช่นกัน ผมได้เลือกบางบทของเนื้อหามาสรุปไว้คร่าว ๆ ดังนี้ครับ
ส่วนที่ 1 เป็นส่วนที่เกี่ยวกับงาน
ชายผู้ถึงจุดสูงสุดในหน้าที่การงาน
เป็นเรื่องราวของ Steve ซึ่งทำงานเป็น Recruiter ของบริษัทแห่งหนึ่ง วันหนึ่งเขาได้เจอกับ Profile ของชายคนหนึ่ง ที่ดูแล้วน่าสนใจและเหมาะสมกับตำแหน่งที่เขากำลังต้องการพอดี เขาจึงติดต่อชายคนนี้ไปเพื่อนำเสนองานนี้ ที่ให้ทั้งตำแหน่งที่สูงกว่า และผลตอบแทนที่ดีกว่ามาก แต่ชายคนนี้กลับปฏิเสธแล้วบอกว่า “I already made it to the top” ซึ่งยิ่งทำให้ Steve รู้สึกแปลกใจมากขึ้นไปอีก เพราะชายคนนี้ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งของผู้บริหารระดับสูงเลย
ชายคนนั้นอธิบายเพิ่มเติมว่า งานปัจจุบันที่เขาทำอยู่นั้น เป็นงานที่เขารู้สึกสนุก และมีความสุขที่ได้ทำ เพื่อนร่วมงานก็ดี ผลตอบแทนและสวัสดิการก็อยู่ในระดับที่สูงเพียงพอแล้ว ที่สำคัญ เขาไม่เคยพลาดช่วงเวลา และงานสำคัญ ๆ ของครอบครัวและลูก ๆ ของเขาเลย ในขณะที่งานใหม่ที่มีผลตอบแทนสูงกว่านั้น ก็จำเป็นที่จะต้องเอาเวลาส่วนตัวไปแลก ซึ่งสำหรับเขาแล้ว มันไม่คุ้มเอาเสียเลย
เรื่องนี้สอนให้เรารู้ว่า จุดสูงสุดในหน้าที่การงานของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน บางคนอาจอยากขึ้นไปเป็นผู้บริหารระดับสูง บางคนอาจอยากเปิดกิจการของตัวเอง หรือบางคนอาจแค่อยากทำในสิ่งที่ตัวเองรักและมีเวลาให้กับครอบครัว ดังนั้นลองพิจารณาถึงเป้าหมายของตัวเราเองดู เพื่อที่เราจะได้เลือกเส้นทางที่เหมาะสมให้กับชีวิตของเรา.
หนึ่งทักษะที่คนไทยขาดแคลน
คุณรุตม์เคยมีเจ้านายฝรั่งคนหนึ่ง ในสมัยที่ยังทำงานอยู่ที่ Reuters มีอยู่ครั้งหนึ่งที่คุณรุตม์ไปขอคำแนะนำกับเจ้านายว่า อยากขอคำแนะนำเรื่อง Time Management และเจ้านายคนนั้นก็ตอบว่า
“มีแต่คนนิสัยดี ๆ เท่านั้นที่มีปัญหาเรื่องการจัดการเวลา คนที่เกเรจะไม่ค่อยมีปัญหานี้ เพราะพวกเขาปฏิเสธไปหมดทุกอย่าง”
สิ่งที่เจ้านายคุณรุตม์ต้องการจะบอกก็คือ คนไทยมักมีนิสัยขี้เกรงใจ และไม่ค่อยกล้าปฏิเสธงานที่ถูกร้องขอ แม้ว่าตัวเองจะมีงานอยู่แล้วเต็มมือก็ตาม ซึ่งนั่นก็จะทำให้เกิดปัญหากับการบริหารจัดการเรื่องเวลา ดังนั้นเราต้องรู้จักพูดปฏิเสธให้เป็น หากสิ่งไหนทำไม่ได้ หากสิ่งไหนทำไม่ทัน ก็ควรต้องปฏิเสธเสียบ้าง อย่าตอบตกลงไปเสียหมด เพราะสุดท้ายแล้วหากเราทำมันไม่ได้ ก็จะไม่เกิดผลดีต่อใครเลยสักฝ่ายเดียว
อะไรคือ Super Power ของคุณ
ในที่นี้ก็คือจุดแข็งของเรา หรือเรื่องที่เราสามารถทำได้อย่างดีเยี่ยมเหนือกว่าใคร ๆ ลองถามตัวเองดูว่า สิ่งใดคือ Super Power ของเรา และเมื่อรู้แล้ว ก็ต้องคิดหาวิธีที่จะนำจุดแข็งข้อนั้น ๆ มาพัฒนาการทำงานของตัวเราให้ดียิ่งขึ้น
5 ปัจจัยในการสร้างทีมที่ยอดเยี่ยมของ Google
- ต้องทำให้รู้สึกปลอดภัย คือสามารถพูดคุยกัน สอบถามกัน เสนอแนะกัน ได้ในทุกเรื่อง
- ไว้วางใจกันได้ คือการเชื่อมั่นในเพื่อนร่วมทีม ว่าทุกคนจะรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองได้เป็นอย่างดี
- มีความชัดเจน คือมีเป้าหมายชัดเจน หน้าที่ชัดเจน บทบาทชัดเจน
- งานนั้นมีความหมาย คืองานที่ทำนั้นมีคุณค่าทางจิตใจต่อทุกคนในทีม
- มีผลกระทบคือทุกคนในทีมเชื่อว่างานที่ทำนั้นจะส่งผลออกไปในวงกว้าง
นิสัย 10 ข้อของเจ้านายที่ดี
คุณรุตม์เอาบทความนี้มาจาก Fast Company ครับ ประกอบไปด้วย
- สื่อสารชัดเจน
- ไว้ใจลูกน้อง
- เสมอต้นเสมอปลาย
- เข้าใจงานที่ลูกน้องทำ
- เปิดโอกาสให้ลูกน้องทำผิดพลาด
- รู้เนื้อรู้ตัว รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่
- จัดการเจ้านายตัวเองได้
- เข้าอกเข้าใจลูกน้อง
- เชื่อในการพัฒนาตัวเอง
- หนุนหลังลูกน้อง
ส่วนที่ 2 เป็นส่วนที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์
เราเป็นคนที่อยู่ด้วยยาก
คนเราทุกคนย่อมมีนิสัยบางอย่างที่ไม่ดีนักซ่อนอยู่ ดังนั้นอย่าคิดว่าตัวเองมีแต่ข้อดี อย่าอยู่แต่ในฟองอากาศของตัวเอง แล้วเอาแต่คิดว่าปัญหาในเรื่องความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น เกิดจากอีกฝ่ายหนึ่งเท่านั้น ลองปรับเปลี่ยนมุมมอง แล้วคิดอยู่เสมอว่า เราเองเป็นคนที่อยู่ด้วยยาก และปัญหาก็อาจเกิดมาจากเราก็ได้ เมื่อเราคิดได้แบบนี้ ตัวเราเองก็จะพร้อมที่จะเป็นคนเอ่ยปากขอโทษก่อน
ความรักไม่ใช่เรื่อง 50-50
การใช้ชีวิตคู่ ไม่ใช่เรื่องของความเท่าเทียมกันไปเสียหมด อย่าใช้ความคิดที่ว่า ฉันทำเท่านี้ เธอก็ต้องทำเท่านี้ ฉันให้เธอเท่านั้น เธอก็ต้องให้ฉันเท่านั้นด้วย หากเอาแต่คิดแบบนี้ ชีวิตคู่ก็คงจะอยู่ด้วยกันได้ยาก
ลองปรับเปลี่ยนมุมมองให้เป็น 90-10 ดูบ้าง หากคนสองคนต่างพร้อมที่จะทำให้อีกคนหนึ่ง 90 ส่วน แล้วหวังว่าจะได้ตอบแทนกลับมาเพียงแค่ 10 ส่วน มั่นใจได้เลยว่าชีวิตคู่ของพวกเขาย่อมมีแต่ความสุข
ดังนั้น อย่าไปเรียกร้องความยุติธรรมในความสัมพันธ์
10% ของงานเท่ากับ 50% ของลูก
หากโดยเฉลี่ยในแต่ละวัน คุณทำงาน 10 ชั่วโมง โดยที่จะกลับถึงบ้านตอน 1 ทุ่ม เพื่อใช้เวลา 2 ชั่วโมงอยู่กับลูก เพราะลูกของคุณจะเข้านอนตอน 3 ทุ่ม
การที่คุณอยู่ทำงานต่ออีก 1 ชั่วโมง ก็เท่ากับคุณทำงานเพิ่มได้อีก 10% ของวันนั้น แต่ 1 ชั่วโมงที่หายไปนั้น เทียบเท่ากับเวลา 50% ที่คุณจะมีให้ลูกในแต่ละวัน
เมื่อใช้มุมมองแบบนี้ เราคงไม่อยากเสียเวลา 50% ที่จะมีให้ลูก ไปแลกกับเวลาเพียง 10% ของการทำงานหรอกใช่ไหมครับ
ส่วนที่ 3 เป็นส่วนที่เกี่ยวกับสังคม
เราแก่เกินกว่าจะมาทะเลาะกันในเรื่องพวกนี้แล้ว
คุณรุตม์บอกว่า เมื่อเริ่มมีอายุมากขึ้น ก็เริ่มรู้สึกไม่อยากเสียเวลาไปกับการทะเลาะกับคนอื่น ๆ ซึ่งก็มีเหตุผลอยู่ด้วยกัน 3 ประการ
- เวลาไม่ได้เหลือมากนัก อย่าเอาเวลามาใช้กับเรื่องพวกนี้เลย
- บางทีทั้งสองคนก็เป็นฝ่ายถูกทั้งคู่ เพียงแต่ใช้มุมมองในการพิจารณาคนละแบบเท่านั้น
- เมื่อเถียงกันเสร็จแล้วก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้น
ส่วนที่ 4 เป็นส่วนที่เกี่ยวกับตัวเอง
โรคซึมเศร้า
- โรคนี้เกิดขึ้นกับใครก็ได้
- ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ
- เมื่อก่อนคนไทยไม่ได้เป็นโรคนี้กันมาก เพราะสังคมไม่ได้บีบคั้นเรื่องการทำงานมากแบบตอนนี้
- เราอาจจะเป็นอยู่แต่ไม่รู้ตัวก็ได้
ดังนั้นต้องดูแลตัวเองให้ดีทั้งทางสุขภาพกาย และสุขภาพจิต เพื่อที่จะช่วยป้องกันตัวเองจากโรคนี้ได้
ยังมีอีกประโยคหนึ่งที่ผมชอบในหนังสือเล่มนี้ที่ว่า อุปสรรค ความกังวล หรือความกลัว สิ่งเหล่านี้ล้วนเปรียบเสมือนวัคซีน ก็คือมันจะเจ็บตอนฉีด และไม่มีใครต้องการความเจ็บปวดนั้น แต่สุดท้ายแล้ว ในระยะยาวมันจะส่งผลดีต่อชีวิตของเรา และช่วยทำให้เราแข็งแกร่งขึ้นด้วย
โดยรวมเป็นหนังสือที่ดีมาก ๆ และผมก็ชอบมาก ๆ เช่นกันครับ แนะนำให้ลองไปหาซื้อมาอ่านกันดูนะครับ
*ขอขอบคุณ Page Lesson One ที่ช่วยสรุปจาก Nopadol’s Story Podcast ด้วยนะครับ
ติดตามผลงานอื่น ๆ ได้ทาง Page Nopadol’s Story หรือ Nopadol’s Story Podcast ใน Podbean Soundcloud Apple Podcast Spotify หรือ Youtube
No comment yet, add your voice below!