1. บางทีเราก็อาจจะมีความสุขอยู่แล้ว แต่โซเชียลมีเดียนี่แหละที่มาบอกเราว่าเราไม่มีความสุข
2. เราอาจจะคิดว่าความสุขคือสิ่งที่เราสามารถจะเอาชนะได้ด้วยความพยายามที่จะหาความสำเร็จ เงิน ชื่อเสียง ต่าง ๆ แต่เราจะ “ชนะ” เกมนี้ได้อย่างไร เพราะในที่สุดก็ไม่มีใครอยู่ได้ตลอดไป
3. บางทีเราจะเจอความสุขทันทีที่เราหยุดค้นหาความสุข
4. ยิ่งเราเชื่อมต่อกันผ่านอินเทอร์เน็ตมากเท่าไร เรายิ่งเชื่อมต่อกันในชีวิตจริงน้อยลงเท่านั้น
5. ถ้าเราอยากจะมีความสุข อย่าเปรียบเทียบตัวเรากับใคร ให้เปรียบเทียบตัวเราวันนี้กับตัวเราในเมื่อวาน
6. สังเกตไทม์ไลน์ในเฟซบุ๊คของเราให้ดี นั่นคือห้องสมุดของชีวิตเรา เลิกติดตามคนปลอม ๆ คนที่ให้ความเห็นลบ ๆ และให้แทนที่ด้วยคนที่จริงใจและมองโลกในแง่บวกแทน นั่นจะทำให้ห้องสมุดของชีวิตเราดีขึ้น
7. โซเชียลมีเดียทำให้ความสมบูรณ์แบบกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย เพราะทุกคนก็คัดสรรแสดงเฉพาะสิ่งที่ดีมาก ๆ จนกลายเป็นว่าสิ่งดี ๆ ทั่ว ๆ ไป กลายเป็นสิ่งที่ไม่ได้เรื่อง
8. ตัวเรากลายเป็นสิ่งที่ถูกกำหนดโดยอัลกอริทึ่มไปแล้ว
9. ถ้าเราต้องทำแค่หนึ่งอย่างที่จะทำให้สุขภาพและความสุขของเราดีขึ้น ให้รู้จักขอบคุณอย่างสม่ำเสมอ
10. ถ้าเราใช้ชีวิตตามโลกภายนอก เราจะใช้ชีวิตอย่างไม่มีความสุข แต่ถ้าเราใช้ชีวิตตามโลกภายในของเราเอง เราจะพบความสุขได้ในที่สุด
11. หญ้าจะเขียวกว่าเสมอในอีกที่หนึ่ง จนกว่าเราจะรดน้ำให้กับหญ้าในที่ของเรา
12. แทนที่เราจะตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกแย่ ๆ ให้เรารู้สึกว่าโชคดีแค่ไหนแล้วที่ยังมีงานและมีชีวิตอยู่ ชีวิตจะให้สิ่งที่น่าขอบคุณมากขึ้นเรื่อย ๆ กับคนที่รู้สึกขอบคุณสิ่งที่มีในชีวิตเขา
13. ความรู้สึกขอบคุณจะเปลี่ยนความรู้สึกของเราจาก “เราไม่มีเพียงพอ” เป็น “เรามีมากกว่าพอซะอีก” สุดท้ายเราจะรู้สึกว่าตัวเราโอเคกับสิ่งที่มีอยู่มาก ๆ แล้ว
14. ความรู้สึกขอบคุณจะเปลี่ยนสิ่งที่แย่ ๆ ให้กลายเป็นสิ่งดี ๆ
15. ไม่มีคำว่า “ชีวิตเราควรจะเป็นอย่างไร” เส้นทางที่นำไปสู่ความสุขในชีวิตของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน
16. ความสุขไม่ได้มาจากการหามาเพิ่มแต่มาจากการรู้จักสุขจากสิ่งที่มีน้อยต่างหาก
17. การทำตามความลุ่มหลงของตัวเองคือการหลอกลวงที่อาจจะสร้างความวิตกกังวลให้เกิดขึ้นกับเราได้
18. ชีวิตที่ไม่สมบูรณ์แบบและมีความซับซ้อนไม่ใช่ชีวิตที่ผิดพลาด
19. เราไม่สามารถหาตัวตนเราเจอ เราไม่สามารถหาความลุ่มหลงของเราเจอ และเราไม่สามารถหาคู่ชีวิตของเราเจอ ทั้งหมดเราต้องสร้างขึ้นมาด้วยตัวของเราเอง
20. ชีวิตไม่ได้มีบทที่ขีดเขียนไว้แล้ว
21. คำว่า “ตกหลุมรัก” ของแต่ละคนไม่มีนิยามที่เหมือนกัน เพราะแต่ละคนก็มีความรู้สึกที่แตกต่างกัน
22. เวลาเราปลูกต้นไม้ เราก็จะไม่ขุดเมล็ดพันธุ์พืชมากทุก ๆ 2-3 นาทีเพื่อจะดูว่ามันโตขึ้นแล้วหรือยัง แล้วทำไมเราถึงชอบถามตัวเองเวลาเราทำอะไรสักอย่างแล้วยังไม่เห็นผล สิ่งที่เราควรทำคืออดทนและทำต่อไป
23. ถ้าเราอยากจะเป็นเหมือนบุคคลต้นแบบเรา เราต้องเลิกลอกเลียนแบบเขาในทุกเรื่อง บุคคลต้นแบบเหล่านั้นเขามีวิธีสร้างความสำเร็จของแต่ละคนแตกต่างกัน ถ้าเราต้องการสำเร็จอย่างเขา เราก็ต้องหาทางของเราเองเช่นกัน
24. ยิ่งเราต้องการจะเป็นเหมือนคนที่มีความแตกต่างจากคนอื่นมากเท่าไร เรายิ่งมีโอกาสเป็นได้น้อยเท่านั้น ความแตกต่างของเราจะเกิดขึ้น เมื่อเราหยุดลอกเลียนแบบคนอื่น
25. สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับการยกระดับจิตใจของเราคือความพยายามลงมาช่วยเหลือคนอื่นที่ด้อยกว่าเรา
26. ไม่มีใครมาตัดสินเราได้หรอกว่า เราทำงานน้อยเกินไป หรือ เราทำงานหนักเกินไป อย่าไปสนใจกับคำพูดแบบนี้มากนัก
27. วิธีทำให้เรามีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นคือการกลับไปเป็นมนุษย์เมื่อ 10,000 ปีก่อน ลดแรงกระตุ้น แอลกอฮอล์ คาเฟอีน การกินอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และความโดดเดี่ยวลง เราก็จะมีสุขภาพจิตดีขึ้น
28. บรรพบุรุษเรารู้จักการสร้างความสัมพันธ์ การใช้ชีวิตง่าย ๆ การออกกำลังกาย ธรรมชาติ และน้ำ ในขณะที่เรารู้จักแต่กำแพงสีขาว ๆ เมืองที่วุ่นวาย ความโดดเดี่ยว การติดดิจิทัล การนอนไม่หลับ อาหารสั่งออกมากินที่บ้าน และเครื่องดื่มที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ถ้าอยากมีความสุข ลองย้อนไปทำสิ่งที่บรรพบุรุษเราทำกันบ้าง
29. การล้มเลิกเป็นสิ่งที่คนทำสำเร็จทำ เพราะคนที่สำเร็จเขาจะรู้ว่าเมื่อไรที่เขาควรล้มเลิก เมื่อไรที่เขาควรเปลี่ยนทิศทาง ออกจากสถานการณ์ที่เป็นพิษ หรือเลิกในสิ่งที่ควรเลิก
30. ถ้าเรารับกับความไม่แน่นอนไม่ได้ เราก็รับการเจริญเติบโตไม่ได้เช่นกัน
31. ความไม่แน่นอนคือช่องว่างระหว่างสถานการณ์ปัจจุบันที่เราไม่พึงพอใจกับความสุขที่เราก็ยังไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน ถ้าเราอยากมีความสุข ความรัก และความสำเร็จ เราก็ต้องเดินทางผ่านความไม่แน่นอนนี้ไป
32. การคิดมากไปและการผัดวันประกันพรุ่งคือความพยายามที่จะตัดสินใจให้สมบูรณ์แบบ ทั้ง ๆ ที่ความสมบูรณ์แบบนั้นเราจะเกิดขึ้นเมื่อเรามองย้อนกลับไปในอดีตเท่านั้น
33. ถ้าเราไม่อยากผิดพลาดซ้ำสอง ให้เราตัดสินใจจากความทรงจำในอดีตให้มากกว่าอารมณ์ในปัจจุบัน
34. ยิ่งเรามีอารมณ์มากเท่าไร เราอาจจะตัดสินใจได้ผิดพลาดมากเท่านั้น
35. เราป้องกันไม่ให้เกิดความวุ่นวายในชีวิตไม่ได้หรอก แต่เราเรียนรู้ที่จะหาความสงบในความวุ่นวายนั้นได้
36. เวลามีปัญหาเกิดขึ้นให้หาหนทางแก้ไขไม่ใช่แค่บ่นหรือบอกแต่ความรู้สึก
37. เวลาที่เกิดความวุ่นวาย สิ่งที่จะเป็นเพื่อนเราคือความคิดเชิงบวก การทำอะไรเพื่อแก้ไข และการโฟกัส ส่วนสิ่งที่จะเป็นศัตรูเราคืออารมณ์ ความสิ้นหวัง และความคิดเชิงลบ
38. เราไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา เราคือสิ่งที่เราเลือกที่จะจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น
39. อยากจะประสบความสำเร็จ เราต้องมีความสม่ำเสมอเป็นระยะเวลานาน
40. ความฉลาดส่งผลต่อความสำเร็จเพียง 5% อีก 95% มาจากความสม่ำเสมอ
41. ความสม่ำเสมอในสิ่งที่ถูกจะส่งผลต่อความสำเร็จ ในทางกลับกันความสม่ำเสมอในสิ่งที่ผิดก็จะทำให้เราล้มเหลว
42. ความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นจากการตัดสินใจครั้งใหญ่ที่ถูกต้องเพียงครั้งเดียว แต่เป็นการตัดสินใจดี ๆ ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
43. เราก็เหมือนนักแสดงที่เล่นตามบทที่เราบอกกับตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า
44. เราพัฒนาตัวเองไม่ได้หรอก ถ้าเราไม่รู้จักตัวเอง เราอาจจะอ่านหนังสือมาหลายเล่ม แต่ถาเราไม่รู้จักอ่านตัวเอง เราก็ไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย
45. การอ่านหนังสือคือวิธีที่ดีที่เราจะได้เรียนรู้ การรู้จักตัวเองคือวิธีที่ดีที่เราจะเปลี่ยนการเรียนรู้ ถ้าเราทำทั้ง 2 อย่าง เราจะเดินข้างหน้า แต่ถ้าเราทำแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง เราจะไปไหนไม่ได้ไกล
46. ความตั้งใจไม่มีประโยชน์ถ้าเราไม่ทำอะไร แต่การทำอะไรก็ไม่มีประโยชน์ถ้าเราไม่ตั้งใจ เราจะก้าวหน้าไปได้ เราต้องมีทั้งความตั้งใจกับการลงมือทำ
47. สิ่งที่จะบ่งบอกว่าคน ๆ หนึ่งมีชีวิตที่ดี คือการที่คน ๆ นั้นไม่จำเป็นต้องแสดงให้คนอื่นเห็นว่าตัวเองมีชีวิตที่ดี เพราะการมีชีวิตที่ดีไม่จำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบจากใคร
48. ถ้าเราบอกว่า สิ่งนั้นทำให้เราโกรธ เราจะโกรธบ่อย ๆ แต่ถ้าเราบอกว่าเราทำให้ตัวเองโกรธเพราะสิ่งนั้น เราจะโกรธน้อยครั้งลง
49. หลายครั้งปัญหามันไม่ใช่ปัญหา แต่ความคิดของเราเกี่ยวกับปัญหานั่นแหละคือปัญหา
50. 5 สิ่งที่เราจะเสียใจ 1) ยึดติดกับความคิดเห็นของคนแปลกหน้า 2) เอาแต่คิดถึงอดีตแทนที่จะอยู่กับปัจจุบัน 3) ใช้เวลากับคนที่ไม่หวังดีกับเรา 4) ละเลยครอบครัว และ 5) ไม่รับความเสี่ยงใด ๆ เลย
51. บางคนตายตั้งแต่ตอนอายุ 25 ปี แต่ยังไม่ถูกฝังจนกระทั่งอายุ 75 ปี เราไม่ควรจะหยุดความฝันและความหวังในชีวิตของเรา
52. ถ้าเราพยายามจะเป็นคนอื่น เราจะเป็นคนที่ไม่สำเร็จอะไรเลย ความสำเร็จที่สูงสุดของเราเกิดจากความพยายามที่จะเป็นตัวของตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดเท่านั้น
53. อย่าเอาความสุขของเราไปแลกกับความก้าวหน้าในอาชีพ เงิน การได้รับการยอมรับจากผู้อื่น ความมีชื่อเสียง หรือสถานะทางสังคมใด ๆ เป้าหมายสูงสุดของเราควรจะเป็นความสุข สิ่งเหล่านั้นจะไม่มีประโยชน์ใด ๆ ถ้าไม่สร้างความสุขให้กับเรา
54. ความรัก ผู้นำ หรือ เพื่อนแท้ จะไม่พยายามที่จะมาควบคุมและสั่งการเรา
55. การเข้าถึงข้อมูลคือสิ่งที่เป็นประโยชน์มากในชีวิต ถ้าเปรียบเทียบว่าเงินคือปลา ข้อมูลก็คือเบ็ดตกปลา ถ้าเราเข้าถึงข้อมูลได้ เราจะประสบความสำเร็จเสมอ
56. ถ้าเราอยากประสบความสำเร็จในสิ่งที่เราทำ เราไม่จำเป็นต้องเก่งที่สุดในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เราแค่เก่งประมาณหนึ่งในหลาย ๆ ทักษะที่จำเป็นในสิ่งที่ทำนั้นก็พอ
57. เราสามารถทำงานหนักขึ้น เพื่อให้ได้เงินมากขึ้น แต่ไม่ว่าเราจะพยายามแค่ไหน เราก็มีเวลาจำกัด
58. เราจะใช้ชีวิตอย่างไร ถ้าเราตระหนักรู้ว่าเวลาเราเหลือน้อยลงทุกที
59. คนที่เราอยากจะเป็นแบบเขา เขาใช้เวลาของเขาแต่ละวันอย่างไร
60. อะไรคือสิ่งที่เราจะยอมสละทุกอย่างเพื่อให้เราได้ไปถึงจุดนั้น
61. ชีวิตเราตอนนี้เป็นผลที่เกิดขึ้นจากสิ่งที่เราทำเมื่อปีที่แล้ว ดังนั้นชีวิตของเราในอีก 1 ปีข้างหน้า จะเป็นผลจากสิ่งที่เราทำในวันนี้
62. บางทีเราอาจจะต้องหยุดค้นหาเพื่อที่จะได้พบสิ่งที่เรากำลังค้นหาอยู่
63. คุณค่าของตัวเราไม่ได้ถูกวัดจากรถที่เราขับ เงินที่เรามีในธนาคาร งานที่เราทำ จำนวนผู้ติดตาม หรือ ความสำเร็จที่เราได้
64. ตอนนี้เรามีเพียงพอแล้ว
ติดตามผลงานอื่น ๆ ได้ทาง Page Nopadol’s Story หรือ Nopadol’s Story Podcast ใน Podbean Soundcloud Apple Podcast Spotify YouTube หรือ Blockdit