ได้อ่านหนังสือชื่อ Essentialism ที่เขียนโดย Greg McKeown รู้สึกชอบมากครับ
หนังสือเล่มนี้บอกว่า ตอนนี้หลาย ๆ คนพยายามวิ่งวุ่นทำไมหลาย ๆ เรื่องจนไม่มีเวลาทำได้ดีมาก ๆ สักเรื่อง แถมยัง Burn Out หรือหมดไฟ หมดแรงอีกต่างหาก
ผมชอบคำเปรียบเปรยคำหนึ่งในหนังสือเล่มนี้ครับว่า เราอยากจะขยับไปล้านทิศทาง แต่ขยับไปได้แค่ 1 มิลลิเมตร หรือ เราจะโฟกัสขยับไปทิศทางเดียว แต่ไปได้ไกลกว่า
ในหนังสือแบ่งคนออกเป็น 2 ประเภทครับ คือ Nonessentialist คือพวกทำทุกอย่าง กับ Essentialist คือคนที่เน้นทำบางอย่างให้ดีที่สุด
พออ่านจบแล้วเลยขอนำมารีวิวว่าคนที่เรียกว่า Essentialist จะมีลักษณะเป็นอย่างไร
1. ทำน้อยแต่ทำได้ดี
คนที่เป็น Essentialist จะไม่ทำอะไรเยอะครับ และจะไม่พยายามเป็นทุกสิ่งกับคนทุกคน คำพูดติดปากของคนกลุ่มนี้คือ “ฉันเลือกที่จะ” มากกว่าคนที่เป็น Nonessentialist ที่มักจะพูดคำว่า “ฉันจะต้อง” นอกจากนี้คนที่เป็น Essentialist ยังทำอะไรไม่เยอะมาก เพราะเขาเชื่อว่า ถ้าเขาทำอีกอย่างมากขึ้น มันก็จะแปลว่าอีกอย่างเขาจะต้องทำน้อยลง ต่างจาก Nonessentialist ที่มักจะทำมันทุกอย่าง พยายามทำให้ครบ เพราะคิดว่าทุกอย่างสำคัญเหมือนกันหมด
2. มักจะปฏิเสธมากกว่าตอบรับ
ตรงนี้สำคัญมากครับ การที่เราจะ “เลือก” ทำสิ่งที่สำคัญได้ เราต้องรู้จักปฏิเสธ Essentialist จึงมักจะปฏิเสธกับทุกอย่าง และจะตอบรับกับบางอย่างที่สำคัญมาก ๆ เท่านั้น เขาบอกว่า คนที่เก่งมักจะเข้าไปสู่กับดักของความเก่ง คือยิ่งเราเก่ง ก็จะยิ่งมีโอกาสวิ่งเข้ามาหามากมาย และคราวนี้แหละครับ ถ้าเราตอบรับทุกโอกาสที่เข้ามา เราก็จะต้องทำหลายสิบเรื่องพร้อม ๆ กัน ซึ่งเราจะทำได้ไม่ดีสักเรื่อง และแถม Burn Out อีกต่างหาก
ในทางตรงกันข้ามคนที่เป็น Nonessentialist มักจะเป็นคนที่ตอบรับทุกเรื่องครับ และเมื่อมีอะไรเข้ามาเยอะ การจัดลำดับก็สับสน กลายเป็นว่าอะไรจะถึง Deadline ก่อน ก็จะทำอันนั้น คนกลุ่มนี้มักจะมีปัญหาการทำงานไม่ทัน หรือเกิดความเครียดได้จากตารางงานที่แน่นมาก ๆ เสมอ
3. ใช้ชีวิตที่มีความสุข
เนื่องจาก Essentialist เป็นคนช่างเลือก (คือเลือกเฉพาะสิ่งที่ตอบโจทย์ชีวิตจริง ๆ ) ดังนั้นคนกลุ่มนี้จะมักจะมีความสุขกับการใช้ชีวิตมากกว่า Nonessentialist ที่ทำมันทุกเรื่อง คนที่เป็น Essentialist จะรู้สึกว่าเขาควบคุมชีวิตของเขาได้ ส่วน Nonessentialist จะรู้สึกว่าชีวิตโดนสถานการณ์หลาย ๆ อย่างควบคุม “ต้องทำ” อันโน้น อันนี้ให้เสร็จ และสุดท้ายความสุขในชีวิตก็หายไป
จาก 3 ข้อที่แตกต่างกันนั้น คำถามที่เป็นหัวใจของหนังสือเล่มนี้คือ แล้วเราจะเป็น Essentialist กันได้อย่างไร หนังสือแนะนำ 3 สิ่งที่เราควรต้องทำครับ
1. สำรวจ (Explore)
แปลว่าเราต้องศึกษาโอกาสทั้งหมดที่เรามี แล้วแยกให้ออกว่าอะไรสำคัญ อะไรไม่สำคัญ
2. ตัดทิ้ง (Eliminate)
หลังจากที่เราทราบแล้วว่าอะไรสำคัญ อะไรไม่สำคัญ เราจะต้องตัดใจ ตัดสิ่งที่ไม่สำคัญออก (บอกเลยว่าตรงนี้ยากมากครับ) และแข็งใจไม่ทำในสิ่งที่เรารู้ว่าไม่สำคัญ และรู้จักปฏิเสธให้เป็น (หนังสือลงรายละเอียดเรื่องนี้ไว้เลยครับ)
3. เริ่มทำ (Execute)
หลายคนมีความตั้งใจอยากเป็น Essentialist ทำทั้งสำรวจ เริ่มที่จะตัดบางอย่างทิ้ง แต่พอถึงสถานการณ์จริงก็กลับไปเป็นแบบเดิม ตรงนี้สำคัญนะครับ ไม่เช่นนั้นทุกอย่างก็จะเป็นแค่ฝัน เราต้องเริ่มทำทันทีครับ
หนังสือมีหลายเรื่องที่น่าสนใจมาก ๆ ครับ อยากให้ลองไปหาอ่านกันดู น่าจะมีแปลเป็นไทยแล้วด้วยครับ แต่คำหนึ่งที่ผมชอบที่หนังสือเล่มนี้บอกไว้คือ
“ถ้าเราไม่จัดลำดับความสำคัญด้วยตัวเอง คนอื่นก็จะมาจัดให้”
ระวังกันให้ดีนะครับ
ติดตามผลงานอื่น ๆ ได้ทาง Page Nopadol’s Story หรือ Nopadol’s Story Podcast ใน Podbean Soundcloud Apple Podcast Spotify Youtube หรือ Blockdit
1 Comment
Appreciate this post. Will try it out.